ไทย-สิงคโปร์ รั้งท้ายความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาเซียน เวียดนามอันดับ 1

ธนาคารยูโอบี (UOB) ของสิงคโปร์ เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียนประจำปีล่าสุด พบว่าภาพรวมปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการเงินส่วนบุคคล ขณะที่เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ ผู้บริโภคเวียดนามมีความเชื่อมั่นสูงนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนไทยและสิงคโปร์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุด

รายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน หรือ ASEAN Consumer Sentiment Study ประจำปี 2568 เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาเซียนอยู่ที่ระดับ 54 จุด เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 จุด ซึ่งระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวก โดยการสำรวจครอบคลุมกลุ่มตัวอย่าง 5,000 คนในห้าประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

ผลคะแนนแยกรายประเทศปรากฏว่า เวียดนามมีคะแนนความเชื่อมั่นสูงสุดที่ 67 จุด เพิ่มขึ้น 3 จุดจากปีก่อน โดยผู้บริโภคในเวียดนามมีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ (83%) การเมือง (82%) และสังคม (81%)

อินโดนีเซียตามมาเป็นอันดับสองที่ 55 จุด ลดลง 3 จุด ส่วนมาเลเซียอยู่ในอันสาม แต่มีการปรับตัวดีที่สุดถึง 11 จุด มาอยู่ที่ 53 จุด

ขณะที่ไทยและสิงคโปร์ ได้คะแนนเท่ากันที่ 47 จุด ซึ่งเป็นคะแนนต่ำที่สุดในกลุ่ม และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ความเชื่อมั่นลดลงมากที่สุดถึง 10 จุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินช่วงก่อนการสำรวจ

ส่วนไทยได้คะแนนต่ำสุดในด้านความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจมหภาค แต่ขณะเดียวกันพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยกลับมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินส่วนบุคคลค่อนข้างสูง

เงินเฟ้อคือสิ่งที่ผู้บริโภคในอาเซียนกังวลมากที่สุด

แม้ภาพรวมความเชื่อมั่นดีขึ้น แต่ผู้บริโภคในภูมิภาคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเงินส่วนบุคคล โดยเฉพาะประเด็น “ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ” เป็นสิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามถึง 59% ระบุว่ากังวลมากที่สุด

ผลสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคกว่าครึ่งคาดว่าเงินเฟ้อจะทำให้กำลังซื้อลดลง จึงต้องระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะเดียวกัน สัดส่วนผู้ที่คาดหวังว่า ฐานะทางการเงินจะดีขึ้นหรือคงเดิมในปีหน้า ลดลงเหลือ 56% จาก 59% ในปีก่อน และผู้ตอบแบบสอบถามที่กังวลเรื่องการลดเงินเดือน เพิ่มขึ้น 4 จุด เป็น 46%

คนรุ่นใหม่ใช้จ่ายเพื่อความสุขวันนี้มากกว่าอนาคต

ผลสำรวจยังเผยให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายที่น่าสนใจในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย 73% ของ Gen Z และ 71% ของ Gen Y ในอาเซียน เลือกที่จะใช้จ่ายเพื่อความสุขในปัจจุบันมากกว่าที่จะกังวลเกี่ยวกับอนาคต นอกจากนี้ ยูโอบียังตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ขาดการเตรียมพร้อมทางการเงิน “อย่างเห็นได้ชัด” โดย 7% ของ Gen Z รู้สึกว่าตัวเองไม่พร้อมเลยในด้านเงินออมฉุกเฉินและความคุ้มครองประกัน

ขณะเดียวกัน รายงานยังชี้ด้วยว่า กระเป๋าเงินดิจิทัล (E-wallet) และระบบสแกนจ่าย (Scan-to-pay) เป็นช่องทางการชำระเงินยอดนิยมในภูมิภาค โดยเฉพาะในเวียดนามและอินโดนีเซียที่มีการใช้อีวอลเล็ตมากกว่าประเทศอื่น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 68)