
สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐสภาฝรั่งเศสคาดการณ์ว่าจะลงมติถอดถอนนายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรู ออกจากตำแหน่งในวันจันทร์นี้ (8 ก.ย.) หลังจากดำรงตำแหน่งได้เพียง 9 เดือน ซึ่งจะผลักดันให้ฝรั่งเศสชาติสมาชิกคนสำคัญของสหภาพยุโรปเข้าสู่ภาวะสุญญากาศทางการเมืองครั้งใหม่ และสร้างความหนักใจอย่างยิ่งให้แก่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายกฯ บายรูตัดสินใจเสนอญัตติขอความไว้วางใจในรัฐบาลของตนเอง ซึ่งทำเอาแม้แต่พันธมิตรของเขาเองก็ไม่ทันตั้งตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติภาวะชะงักงันที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือนเกี่ยวกับแผนงบประมาณรัดเข็มขัด ที่ตั้งเป้าจะลดรายจ่ายเกือบ 4.4 หมื่นล้านยูโร (5.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อลดภาระหนี้สินของประเทศ
พรรคฝ่ายค้านทุกพรรคต่างแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะลงมติคัดค้านรัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายกฯ บายรู ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรวบรวมเสียงสนับสนุนได้เพียงพอ เนื่องจากต้องการเสียงข้างมากจากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 577 คน
ตลอดการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นายกฯ บายรูไม่ได้แสดงท่าทีว่าเขาคาดหวังจะรอดพ้นจากมติครั้งนี้ไปได้ ตรงกันข้าม เขากลับตั้งคำถามว่า “ประเทศของเราเข้าใจถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่แล้วหรือยัง”
หากการลงมติเป็นไปตามคาด บายรูจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสคนที่สองติดต่อกันที่ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยมติไม่ไว้วางใจ ต่อจากมิเชล บาร์เนียร์ ที่ถูกถอดถอนไปเมื่อเดือนธ.ค. ปีก่อนหลังอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 3 เดือน โดยบายรูถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ภายใต้การบริหารของปธน.มาครงนับตั้งแต่ปี 2560
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 68)