
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลำดับที่ 20 ได้เข้ามารายงานตัว ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการเลื่อนลำดับขึ้นมา หลังจาก นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลำดับที่ 10 ได้ทำหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยภายหลังเข้ารายงานตัวว่า รู้สึกยินดีที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ สส. หลังจาก สส.ของพรรค ลาออกไป 2 คน ทำให้ลำดับเลื่อนมาถึงตน โดยยืนยันว่าจะทำงานสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน
ส่วนกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น พล.ต.อ.อัศวิน มองว่า ไม่น่ามีปัญหาหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เพราะรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล มีเป้าหมายสำคัญ คือ ทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข และสังคมสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนตั้งใจเช่นเดียวกัน
“สมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยทำเพื่อชาว กทม. แต่วันนี้ต้องคิดถึงประชาชนทั้งประเทศ โดยเชื่อว่าทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน มีเป้าหมายร่วมกัน คือ ความเจริญรุ่งเรือง และความอยู่ดีกินดีของคนไทยทุกคน” พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.68 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีรายชื่อดังนี้
1. นายรุ่งเรือง พิทยศิริ บัญชีรายชื่อลำดับที่ 41 พรรคเพื่อไทย เลื่อนขึ้นมาแทนนายนพดล ปัทมะ ที่มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส. ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.68 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายนพดล ปัทมะ ที่ลาออก จาก สส.พรรคเพื่อไทย สิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
2. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ บัญชีรายชื่อลำดับที่ 18 พรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาแทนนายสุชาติ ชมกลิ่น ที่มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.68 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
3. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง บัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 พรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาแทนนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.68 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร สิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)