ซีอีโอเจพีมอร์แกนชี้สหรัฐฯ ปรับลดประเมินตัวเลขจ้างงานบ่งชี้เศรษฐกิจอ่อนแอ

เจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) เปิดเผยว่า การที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในช่วงเวลา 1 ปี เป็นสิ่งยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยรายงานทบทวนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันอังคาร (9 ก.ย.) โดยระบุว่า ตัวเลขจ้างงานในช่วงเวลา 1 ปีที่นับจนถึงเดือนมี.ค. 2568 นั้น ลดลง 911,000 ตำแหน่งจากประมาณการเบื้องต้น ซึ่งถือเป็นการปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าสองทศวรรษ

“ผมคิดว่าเศรษฐกิจกำลังอ่อนแอลง” ไดมอนกล่าว และเสริมว่า “ส่วนคำถามที่ว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือแค่ชะลอตัว ผมก็ยังไม่ทราบ”

ไดมอนกล่าวว่า เจพีมอร์แกนมีข้อมูลที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้บริโภค บริษัท และการค้าระดับโลก โดยพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีงานทำและยังคงใช้จ่ายเงิน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระดับรายได้ของพวกเขา แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอาจได้รับผลกระทบแล้ว

นอกจากนี้ ไดมอนยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยกล่าวว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แม้การลดดอกเบี้ยอาจจะไม่ได้เป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจก็ตาม

นักลงทุนให้ความสนใจกับมุมมองทางเศรษฐกิจของไดมอน เนื่องจากเขาดำรงตำแหน่งผู้บริหารของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และยังได้ผ่านช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเผชิญกับความผันผวนมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ไดมอนเตือนนั้น มักจะไม่ได้เกิดขึ้นในทันที

การปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานของกระทรวงแรงงานในวันอังคาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการสร้างงานน้อยกว่าที่คิดไว้นั้น เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งเท่านั้น ส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลดเอริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแรงงาน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานประจำเดือนก.ค.ในวันที่ 1 ส.ค.

นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนส.ค.ก็อ่อนแอเช่นกัน โดยปรับตัวขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)