
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิดตัวนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบเก้าอี้ รมว.คลัง และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ที่ได้ทาบทามให้เข้ามาเป็น รมว.พาณิชย์ โดยได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายในเวลาจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“เราเอาความคาดหวังของประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง เพราะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มานาน เป็นบุคลากรในองค์กรขนาดใหญ่ที่เราขอให้เข้ามาช่วยบ้านเมือง” นายอนุทิน กล่าว
สำหรับนางศุภจีเป็นนักบริหาร ไม่ใช่นักธุรกิจ แต่ยอมทิ้งรายได้จำนวนมากเพื่อเข้ามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง จึงขอให้ได้โอกาสทำงาน และไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการทำงาน เพราะตนให้อำนาจเต็มกับผู้ปฏิบัติงาน
“ผมมีธงในการทำงานให้ประเทศก้าวหน้ามั่นคง ทำให้ประชาชนมีโอกาส และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
นางศุภจี ว่าที่ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ภายใต้ระยะเวลาการทำงานในช่วงสั้น ๆ นี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก เพราะประเทศต้องเดินไปข้างหน้า ซึ่งในฐานะที่มีประสบการณ์การทำงานที่หลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วยนั้น มีความตั้งใจจะนำประสบการณ์และความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดเข้ามาทุ่มเทให้กับการทำงานในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีธงเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศชาติ และประชาชน อย่างเต็มที่เต็มความสามารถ
พร้อมกับขอบคุณที่ได้รับเสียงชื่นชม และความคาดหวังต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นกำลังใจที่ดีในการทำงาน และจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง โดยพร้อมที่จะประสานการทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ในการดูแลเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นกลับมาได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
“เป็นความท้าทายที่จะทำ เราคงไม่สามารถทำได้ทุกอย่างในระยะเวลาอันสั้น แต่เราจะเลือกทำในสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุดภายในระยะเวลาที่เรามีอยู่ ให้ได้มากที่สุด” ว่าที่ รมว.พาณิชย์ กล่าว
ส่วนนโยบายใดที่จะทำเป็นการเร่งด่วนก่อนนั้น นางศุภจี ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ อีกทั้งต้องรอนโยบายในภาพใหญ่จากนายกรัฐมนตรีก่อน จากนั้นถึงจะค่อยดูว่าต้องเข้าไปช่วยเสริมในนโยบายเรื่องใดเพิ่มเติม แต่ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้วัตถุประสงค์เดียวกัน คือ ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
ด้านนายเอกนิติ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่ง” ว่า เป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายไว้ ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลัง ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ ไว้แล้ว ส่วนในรายละเอียดคงยังไม่สามารถพูดไปก่อนได้ เพราะต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งลงมาก่อน
“ท่านนายกฯ ได้เห็นประโยชน์จากที่ผมอยู่กระทรวงการคลัง รู้กลไกในการขับเคลื่อนอยู่แล้ว นี่เป็นนโยบายที่นายกฯ ได้ประกาศไปแล้ว ก็ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ ส่วนรายละเอียดขอรอโปรดเกล้าฯ ก่อน” นายเอกนิติ กล่าว
พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายโดยขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก แม้รัฐบาลมีเวลาจำกัด แต่ก็ต้องช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้ได้ และคำนึงถึงระยะยาวควบคู่กันไปด้วย เป็นนโยบายที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน เป็นหลักการที่นายกฯ มอบให้ กำลังทำการบ้านอยู่
นายอนุทิน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีนั้น ทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ที่ผ่านมาก็เป็นไปด้วยดี บางเรื่องต้องตรวจสอบไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่จะทำให้สิ้นข้อสงสัย และการดำเนินการยังอยู่ในช่วงเวลา หากจุดใดที่ดูแลอยู่เกิดความล่าช้าก็จะใช้กลไกเร่งรัด
“เมื่อได้ข้อสรุปหมดแล้ว ผมก็จะได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ คงจะไปเร่งรัดไม่ได้ ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็รู้ดีอยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 68)