
บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ [BGRIM] เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2568 อายุ 5-7 ปี ต่อประชาชนเป็นการทั่วไป ทั้งผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน พร้อมทั้ง Blue Bond หรือ หุ้นกู้สีฟ้า อายุ 3-10 ปี ต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่
Blue Bond หรือ หุ้นกู้สีฟ้า เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) ซึ่งจัดเป็นประเภทหนึ่งของหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่จะระดมทุนเพื่อนำมาใช้กับโครงการที่เป็นประโยชน์กับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลโดยเฉพาะ นับเป็นครั้งแรกของ BGRIM ที่เสนอขายหุ้นกู้ประเภทนี้ สอดรับกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของ BGRIM และยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ BGRIM ในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิกการนำ Blue Bond มาใช้กับโครงการพลังงานหมุนเวียนของภาคเอกชนไทย
ชุดที่ 1 หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571 รอประกาศราคาเสนอขายและอัตราคิดลด
ชุดที่ 2 หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2572 รอประกาศอัตราดอกเบี้ย จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
ชุดที่ 3 หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2578 รอประกาศอัตราดอกเบี้ย จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
ชุดที่ 4 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2573 อัตราดอกเบี้ย [2.90-3.10%] ต่อปี
ชุดที่ 5 อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2575 อัตราดอกเบี้ย [3.20-3.40%] ต่อปี
สำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 1 ผู้ลงทุนทั่วไป (รวมถึงผู้ลงทุนรายใหญ่) จองซื้อหุ้นกู้ขั้นต่ำ 100หน่วยทวีคูณครั้งละ 100 หน่วย
สำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 2-5 ผู้ลงทุนทั่วไป (รวมถึงผู้ลงทุนรายใหญ่) จองซื้อหุ้นกู้ขั้นต่ำ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
BGRIM คาดว่าเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568 โดยมี ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้ ธนาคาร กรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารยูโอบี บล.เกียรตินาคินภัทร ธนาคารออมสิน บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) บล.เอเซีย พลัส
จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568
– องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A
– หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A-
บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ 1.ชำระหนี้จากการออกตราสารหนี้ 2.ลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ ESG
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 68)