JMT เล็งขายหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ย 4.80-5.10% เปิดจอง 25-29 ก.ย.

บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส [JMT] เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 3/2568 ต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (PO) โดยเป็นหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 8 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.80% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.10% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ คาดว่าเสนอขายระหว่างวันที่ 25 – 26 และวันที่ 29 กันยายน 2568 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้เสริมความแข็งแกร่งในการเข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพที่ประมูลซื้อจากบริษัท / สถาบันการเงินมาบริหาร

อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ อยู่ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” และ อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้อยู่ที่ “BBB+” จัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 อันดับเครดิตองค์กรของ JMT อยู่ในระดับเท่ากับอันดับเครดิตองค์กรของ JMART ซึ่งสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่เป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของ JMART โดยเป็นไปตาม “เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ” ของทริสเรทติ้ง ทั้งนี้ JMT มีบทบาทสำคัญต่อกลุ่มเจมาร์ท (JMART Group) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจด้านการเงิน โดยบริษัททำหน้าที่เป็นแกนหลักที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของธุรกิจการเงินอื่น ๆ ภายในกลุ่ม

“เราเชื่อว่า การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในหลายด้าน โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมกระแสเงินสดไว้สำหรับการขยายพอร์ตบริหารหนี้ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง อีกทั้ง จากภาพรวมผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น และแนวโน้มการเติบโตในอนาคต จะสนับสนุนให้ JMT มีกระแสเงินสดที่เพียงพอในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMT กล่าว

โดย JMT ตั้งเป้าปี 2568 กำไรให้ได้ตามเป้าหมาย ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยจะรักษากระแสเงินสดให้เพียงพอ พร้อมกับวางงบซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ ปีนี้ 2,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2567 JMT ใช้เงินลงทุนซื้อหนี้ 1,139 ล้านบาท และกำลังเดินหน้ารุกตลาด Insure Tech ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาวและเสริมพอร์ตธุรกิจให้แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บล.เอเซีย พลัส บล.บียอนด์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ บล.บลูเบลล์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บล.โกลเบล็ก บล.พาย บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) และ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 68)