ม็อบ Gen Z เนปาลเปิดโต๊ะเจรจากองทัพ เตรียมตั้งนายกฯ เฉพาะกาลคนใหม่

โฆษกกองทัพเนปาลเผย กองทัพจะกลับมาเปิดโต๊ะเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง “Gen Z” ในวันนี้ (11 ก.ย.) เพื่อสรรหาผู้นำรัฐบาลเฉพาะกาลคนใหม่ หลังเหตุประท้วงเดือดคร่าชีวิตผู้คนไป 30 ราย และบีบให้นายกรัฐมนตรี เค พี ศรรมะ โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่ง

การประท้วงครั้งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “ม็อบ Gen Z” เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่ออกมาแสดงความคับแค้นใจต่อความล้มเหลวของรัฐบาลในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันและกระตุ้นเศรษฐกิจ

ขณะที่บรรยากาศในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศ เริ่มกลับสู่ความสงบ แต่ยังคงมีทหารออกลาดตระเวนทั่วเมืองหลังเผชิญเหตุประท้วงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี โดยมีชนวนเหตุจากคำสั่งแบนโซเชียลมีเดียของรัฐบาล

คำสั่งดังกล่าวถูกยกเลิกในเวลาต่อมา หลังการสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตาและกระสุนยางจากตำรวจเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 ราย

ความรุนแรงบานปลายไปถึงการเผาทำลายสถานที่หลายแห่ง ทั้งอาคารราชการตั้งแต่ศาลฎีกาไปจนถึงบ้านพักรัฐมนตรีและที่พักส่วนตัวของนายกฯ โอลี รวมถึงสถานประกอบการเอกชน เช่น โรงแรมหลายแห่งในเมืองท่องเที่ยวโปขรา และโรงแรมฮิลตันในกรุงกาฐมาณฑุ เหตุการณ์เริ่มสงบลงเมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศลาออก

กระทรวงสาธารณสุขเนปาลสรุปยอดความเสียหายล่าสุด ณ วันพฤหัสบดีว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ประท้วงรวม 30 ราย และบาดเจ็บ 1,033 ราย

“การพูดคุยเบื้องต้นได้เริ่มขึ้นแล้ว และจะดำเนินต่อไปในวันนี้ เรากำลังพยายามคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป” ราชา ราม บาสเน็ต โฆษกกองทัพ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์

ด้านกลุ่มผู้ประท้วงได้เสนอชื่อ สุชีลา การ์กี อดีตประธานศาลฎีกา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล ตามการเปิดเผยโดยรามัน กุมาร กรณา เลขาธิการสมาคมเนติบัณฑิตยสภา ซึ่งเป็นผู้ที่กลุ่มผู้ประท้วงได้เข้าปรึกษา

การ์กีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNN-News18 ของอินเดียว่า “เมื่อพวกเขามาทาบทาม ดิฉันก็ตอบตกลง”

กองทัพเนปาลออกแถลงการณ์ว่า คำสั่งห้ามการชุมนุมในกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่โดยรอบจะยังคงมีผลบังคับใช้เกือบตลอดทั้งวัน ส่วนโฆษกท่าอากาศยานนานาชาติแจ้งว่าทุกเที่ยวบินยังให้บริการตามปกติ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 68)