
กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศเมื่อวันเสาร์ (13 ก.ย.) ว่าได้เปิดการไต่สวนเพื่อต่อต้านการทุ่มตลาด (Anti-Dumping) สินค้าชิปไอซีแอนะล็อกบางประเภทที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา
แถลงการณ์ของกระทรวงฯ ระบุว่า การไต่สวนดังกล่าวมีขึ้นหลังได้รับการร้องเรียนจากสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ โดยจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มสินค้าชิปไอซีสำหรับเชื่อมต่อ (Interface IC) และชิปไอซีขับประตูไฟฟ้า (Gate Driver IC) ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 40 นาโนเมตรขึ้นไป
โฆษกกระทรวงฯ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้อ้างประเด็นความมั่นคงของชาติเกินขอบเขต ใช้มาตรการควบคุมการส่งออกและอำนาจศาลในทางที่ผิด เพื่อเจตนากีดกันและกดทับอุตสาหกรรมชิปและปัญญาประดิษฐ์ของจีน
โฆษกกล่าวว่า การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) อย่างร้ายแรง และทำลายสิทธิประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทจีน ซึ่งจีนขอคัดค้านอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่า การเปิดการไต่สวนเพื่อต่อต้านการทุ่มตลาดครั้งนี้เป็นไปตามคำร้องของภาคเอกชนในประเทศ และสอดคล้องกับกฎหมายของจีนและข้อบังคับของ WTO
โฆษกเปิดเผยว่า จากหลักฐานเบื้องต้นที่ผู้ร้องเรียนนำเสนอ พบว่าช่วงปี 2565-2567 ปริมาณการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 37% สวนทางกับราคาที่ลดลงถึง 52% ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาสินค้าในประเทศ และสร้างความเสียหายต่อผู้ผลิตของจีน
ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ยังได้ประกาศเปิดการไต่สวนกรณีการเลือกปฏิบัติต่อมาตรการของสหรัฐฯ ที่พุ่งเป้ามายังอุตสาหกรรมวงจรรวมของจีนด้วย
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่กระทรวงฯ ออกมาตอบโต้กรณีที่สหรัฐฯ ขึ้น Entity List บริษัทจีนเพิ่มเติมในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยีชีวภาพ การบินและอวกาศ และโลจิสติกส์ ซึ่งจีนคัดค้านอย่างยิ่ง
อนึ่ง Entity List คือรายชื่อบริษัทหรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลกที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กำหนดให้มีข้อจำกัดทางการค้า โดยบริษัทหรือหน่วยงานที่อยู่ในรายชื่อนี้จะไม่สามารถซื้อขายสินค้าหรือเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ได้โดยตรง หรืออาจต้องขอใบอนุญาตพิเศษ ซึ่งมักจะถูกปฏิเสธหากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของสหรัฐฯ
โฆษกตั้งข้อสังเกตว่า การที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนเพิ่มเติม เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนที่ทั้งสองประเทศมีกำหนดการเจรจาการค้า ณ ประเทศสเปน ในวันที่ 14 ก.ย. ซึ่ง “ทำให้เกิดคำถามถึงความจริงใจของสหรัฐฯ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 68)