หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์อัพกรอบจำกัด รับ Sentiment บวกหุ้นสหรัฐทำนิวไฮ-จับตาโฉมหน้าครม.ใหม่

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์อัพ แต่อัพไซด์เริ่มจำกัด โดยที่ได้รับ Sentiment หนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพพาะดัชนี S&P500 ที่ทำระดับสูงสุดใหม่ (All time high) จากความคาดหวังการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีทิศทางที่ดี

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ ส่วนปัจจัยในประเทศยังรอความชัดเจนของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาผลักดันมตารการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น

โดยให้แนวต้าน 1,310 จุด แนวรับ 1,290 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (15 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,883.45 จุด เพิ่มขึ้น 49.23 จุด หรือ +0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,615.28 จุด เพิ่มขึ้น 30.99 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,348.75 จุด เพิ่มขึ้น 207.65 จุด หรือ +0.94%

– ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดลบ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 44,948.85 จุด เพิ่มขึ้น 180.73 จุด หรือ +0.40%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,536.63 จุด เพิ่มขึ้น 90.07 จุด หรือ +0.34% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,865.98 จุด เพิ่มขึ้น 5.48 จุด หรือ +0.14%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.ย.) 1,299.78 จุด เพิ่มขึ้น 6.16 จุด (+0.48%) มูลค่าซื้อขาย 35,280.04 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (15 ก.ย.) 299.07 ลบ.

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. (15 ก.ย.)เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 63.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ก.ย.) อยู่ที่ 2.69 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 31.82 แนวโน้มอ่อนค่า ตลาดจับตาความคืบหน้ามาตรการภาษีซื้อขายทองคำ

– “อนุทิน” ย้ำนโยบายเร่งด่วน แก้ไขปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจระยะสั้น ยืนยันไม่มีมีแผนเปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชาในเร็วๆ นี้ สั่งทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ลุยถก ส.อ.ท.แก้ปัญหาค่าเงินบาท “เกรียงไกร” ชง 5 ข้อเสนอรับมือเศรษฐกิจโลกชี้บาทแข็งค่าฉุด “ส่งออก-ท่องเที่ยว-ขีดการแข่งขัน” จี้ตรวจเข้มสอบเส้นทางการซื้อทองจากกัมพูชา อาจเป็นอีกจุดสร้างความปั่นป่วนค่าเงิน

– “ธปท.-สมาคมธนาคาร” เดินหน้ามาตรการเชิงรุก เร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ที่ ถกระงับให้เร็วขึ้น ลดผลกระทบจากมาตรการ “กวาดเส้นเงิน” ย้ำโอน-ใช้โมบายแบงกิ้งทำได้ปกติ ไม่พบสัญญาณ “แบงก์รัน” ด้าน ปลัดดีอี ย้ำมาตรการระงับธุรกรรมชั่วคราวภายใต้ พ.ร.ก. ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 มีผลเพียง 7 วัน ไม่กระทบยอดเงินทั้งบัญชี

– “สมาคมค้าทองคำ” ยันแนวคิด “เก็บภาษีทองแท่งออนไลน์” ดึงอุตสาหกรรมทองคำไทย ถอยหลังและกระทบรายย่อย “วายแอลจี” เปิดอีกด้าน ทองคำทะลักเข้าไทย ยอดส่งออกยังตามไม่ทัน กดดันบาทอ่อนมากกว่าแข็ง ธปท.จับมือ ผู้ค้าทองออกแนวทางลดผลกระทบ “เงินบาท” ดันเทรดทองผ่านดอลลาร์-จับตาซื้อขายสกัดธุรกรรมผิดกฎหมาย ด้านนายกฯ สั่งตรวจสอบส่งออกกัมพูชา

– ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ขอนำเสนอนโยบายควิกวินแก่รัฐบาล เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาสำหรับการออกมาตรการระยะสั้นนี้ ได้แก่ กระตุ้นการจับจ่ายในโครงการคนละครึ่งเวอร์ชันอัปเกรด เป็นยาแรงที่ช่วยให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างทั่วถึง โดยขอเสนอให้ขยายผลครอบคลุมทุกประเภทร้านค้า เพื่อเพิ่มทางเลือกและสร้างความสะดวกในการจับจ่ายของประชาชนได้ทุกที่ที่ต้องการ โดยไม่มีเงื่อนไขซับซ้อน พร้อมปรับเพิ่มวงเงินใช้จ่ายต่อวันจาก 150 บาท เป็น 300 บาท โดยกำหนดวงเงินเดือนละ 1,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน (ต.ค.-พ.ย.) เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพและพฤติกรรมการบริโภคในปัจจุบัน

– “อนุทิน” ย้ำ นำรายชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาฯทันที เผยหลังถวายสัตย์ฯ ย้ำปัญหาชายแดน ไม่เปิดด่านไทย-กัมพูชา สั่งว่าที่ขุนคลัง สอบขนทองขายเขมร โวประชาชนเปิดเป๋ารอ “คนละครึ่ง” ได้เลย

– บีโอไอแจงผลโรดโชว์ดึงการลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำจากสหรัฐฯ หลังไทยเป็นฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นตอนการประกอบและทดสอบมากว่า 50 ปี พุ่งสู่เป้าหมาย “ชิปเมดอินไทยแลนด์” สร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ครบวงจรในประเทศ

– สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณามาตรการปฏิรูปตลาดหุ้นไทย (Task force) ระดมความเห็น วิเคราะห์ปัญหา และหาแนวทางในการฟื้นฟูและส่งเสริมความสามารถของตลาดหุ้นไทย ให้แข่งขันพร้อมกับมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับความท้าทาย เพื่อที่จะยังคงความสามารถในการเป็นกลไกที่สำคัญในการสร้างเสริมเศรษฐกิจไทย โดยองค์ประกอบ Task force มาจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักงาน ก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม

– 3 สมาคมอสังหาฯ เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ “อนุทิน” ออก 2 มาตรการเร่งรัด “ยกเว้นค่าโอน-ค่าจดจำนองบ้านทุกระดับราคาถึง 31 ธ.ค. 68 และลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.5%” ฟื้นตลาดอสังหาฯ ปีนี้

 

หุ้นเด่นวันนี้

– ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 336.39 บาท โมเมนตัมกำไร 2H25 คาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากภาพรวมการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ไม่รุนแรง โดยยังคาดหวังรายได้ที่เติบโตโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรมและได้ Market Share ที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้มีแรงหนุนจากการจับมือกับ MONO ในการขาย Package ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเพื่อดึงดูดลูกค้า

Consensus ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้น 4% ในช่วงเดือนที่ผ่านมาตามที่เราประเมินจาก 4.1 หมื่นลบ.เป็น 4.3 หมื่นลบ. +23% y-y ราคาหุ้นที่ชะลอตัวทำให้ Upside เริ่มกว้างและคาด Dividend Yield ราว 4.5-5% ต่อปี

– BH (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 207.00 บาท แนวโน้มไตรมาส 3/68 คาดปรับตัวขึ้นทั้ง q-q และ y-y จากการเข้าสู่ช่วง High Season ที่เป็นฤดูฝน และแนวโน้มลูกค้ากลุ่มตะวันออกกลางที่เติบโตดีต่อเนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/68 นอกจากนี้ยังลุ้น Upside เพิ่มเติมจากลูกค้าคูเวต ที่กำลังอยู่ในช่วงการเจรจาอีกครั้ง Valuation เทรดบริเวณ PE 19 เท่า ยังถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ที่ราว 30 เท่า ยังเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม

– WHA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 3.80 บาทเรามีมุมมองเชิงบวกกับ WHA หลังจากที่ไทยได้รับอัตราภาษี 19% ของสหรัฐและใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน หลังบริษัทได้เปิดเผยว่ายังเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนด้านศูนย์ข้อมูล(data center) และ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่แสดงความสนใจอย่างมากในการซื้อที่ดินจำนวน 470 ไร่ และ 530 ไร่ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ประธานเจโทร กรุงเทพฯ ระบุว่านักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเลือกไทยเป็นฐานการผลิตเนื่องจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐไม่ได้กระทบการลงทุนญี่ปุ่นในไทยมากนักด้วยเป้าหมายส่งออกหลักคือเอเชียและออสเตรเลีย อีกทั้ง WHA ยังคงขยายธุรกิจให้เช่าพื้นที่โลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องตามความต้องการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในไทย หนุนการเติบโตของรายได้ในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 68)