หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์แม้เฟดฟั่นดอกเบี้ยตามคาดแต่ส่งสัญญาณปิดโอกาสลดแรง

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ไซด์เวย์ แม้ว่าผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนนี้จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตามที่ตลาดคาด แต่ถ้อยแถลงของประธานเฟดส่งสัญญาณปิดโอกาสลดดอกเบี้ยลงอย่างแรง เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า และเงินเฟ้ออาจกลับมาเร่งตัว ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bind Yield) สหรัฐปรับขึ้น ซึ่งอาจกดดันต่อตลาดหุ้นได้ในระยะสั้น

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน และปัจจัยในประเทศยังรอติดตามการเมืองในการตั้งคณะรัฐมนตรีเพื่อเดินหน้าผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น

ให้แนวต้าน 1,315 จุด แนวรับ 1,290 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,018.32 จุด เพิ่มขึ้น 260.42 จุด หรือ +0.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,600.35 จุด ลดลง 6.41 จุด หรือ -0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,261.33 จุด ลดลง 72.63 จุด หรือ -0.33%

– ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้า ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 44,910.50 จุด เพิ่มขึ้น 120.12 จุด หรือ +0.27%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,863.69 จุด ลดลง 44.70 จุด หรือ -0.17% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิด

ที่ระดับ 3,876.06 จุด ลดลง 0.28 จุด หรือ -0.01%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.ย.) 1,306.69 จุด ลดลง 1.50 จุด (-0.11%) มูลค่าซื้อขายราว 48,098.33 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (17 ก.ย.) 201.07 ลบ.

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. (17 ก.ย.) ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 64.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.ย.) อยู่ที่ 3.31 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 31.80 กลับมาอ่อนค่าหลังเฟดลดดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณระมัดระวังหั่นดอกเบี้ย

– ลือโผ ครม.สะดุด คุณสมบัติ รมต.บางรายโดนท้วง ขณะอยู่ในขั้นตรวจสอบของสำนักงานองคมนตรี จ่อปรับใหม่บางเก้าอี้ ก่อนยื่นทูลเกล้าฯ อีกครั้ง หลังมีรายงานว่า “อนุทิน” นั่งในสภาฯ 40 นาที รับสายปริศนาก่อนรีบเดินทางออกไป บอกขอทำธุระก่อน ส่วนรายชื่อ ครม. พูดสั้นๆ “รอ”

– “เอกนิติ” ว่าที่ รมว.คลัง หารือทีมงานกระทรวงการคลังเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปลายปีนี้ โดยจะเน้นโครงการที่สามารถนำมาประกาศใช้ได้ทันทีหลังรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโดยเร็วที่สุด ซึ่งโครงการที่มีแนวโน้มที่จะมาใช้ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง, มาตรการ Easy e-Receipt เพื่อลดหย่อนภาษี, เที่ยวไทยคนละครึ่ง เป็นต้น และยังมีอีกหลายมาตรการที่รัฐบาลได้เตรียมดำเนินการเพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และต้นปีหน้าให้มากที่สุด

– “ชาติศิริ” ธนาคารกรุงเทพ เตือนโลกธุรกิจ-ภาคการเงิน เผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จาก”เทคโนโลยี” ความ

ท้าทายนอกบ้าน ส่งผลองค์กรทุกขนาดปรับตัวเพื่อ ความอยู่ “รอด” ชี้ “ดิจิทัล-เทคโนโลยี” แกนหลักสร้างความได้เปรียบการแข่งขัน ยกโจทย์ใหญ่ “ธุรกิจแบงก์ไทย” เผชิญดอกเบี้ย-นิมขาลง-เทคโนโลยีดิสรัปชัน ด้านแบงก์กรุงเทพเร่งยกระดับพนักงาน-ปรับองค์กรใหม่

– “กองทุนวายุภักษ์ 1” มองบวก “ตลาดหุ้นไทย” เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล หลังดัชนีฯ แตะ 1,300 จุด และมีโมเมนตัมดี

พร้อมลั่นผลงานครบ 1 ปี “พอใจ” ท่ามกลางภาวะตลาดผันผวนหนักเกินไป แต่ยังปั้น “ผลตอบแทน” ออกมาดีกว่าคาด ลุย “กลยุทธ์” หมุนพอร์ตทันต่อ สถานการณ์ เน้น “หุ้นปันผลสูง-บริโภคในประเทศ-ESG” รับมือความผันผวนทั้งในและนอกประเทศ

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

– MAGURO (ดาโอ) ราคาเป้าหมาย 33 บาท/หุ้น คาดกำไรไตรมาส 3/68 โต YoY แสะ QoQ ลุ้นทำ All Time High หนุนโดยรายได้รวมทำ All Time High จากการขยายสาขา, SSSG ฟื้น โดย QTD SSSG ติดลบต่ำกว่า 5% ร้านที่ Central Park (Maguro Kappou, Kiwamiya, Hitori Shabu) ตอบรับดีมาก โดยเฉพาะ Kiwamiya ตอบรับล้นหลาม Table turnover rate 8 รอบ/วัน, ticket size 800 บาท/คน คิวยาวต่อเนื่องแม้วันธรรมดา เบื้องต้นคาดกำไร Kiwamiya ปี 68 ที่ 2.2 ล้านบาท และปี 69 ที่ 7.2 ล้านบาท/ สาขา

– CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 65 บาท โมเมนตัมกำไรไตรมาส 3/68 แม้อาจชะลอ q-q ตามปัจจัยหน้าฝน แต่คาดยังโต y-y ด้าน SSSG ก.ค.-ส.ค.ล่าสุดทรงตัว y-y แต่ยังได้แรงหนุนจาก Margin แกร่งจากสินค้าอาหารพร้อมทานเพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นมีกลยุทธ์ควบคุมที่ดีและได้อานิสงส์ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ยังคาดกำไรปี 68 ที่ 2.85 หมื่นลบ.โตแกร่ง +12% y-y และเชื่อไม่มี Downside จากกำไร H1/68 ที่ทำได้ 51% ของประมาณการทั้งปี ด้าน Valuation ยังไม่แพง เทรด PER เพียง 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและคู่แข่ง

– ITC (พาย) ราคาเป้าหมาย 16 บาท ผลประกอบการงวด Q2/68 เริ่มเห็นการฟื้นตัวจาก Q1/68 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2% QoQ ขณะที่ปัจจัยบวกเห็นได้คือรักษากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 25% ได้ ขณะที่แนวโน้ม H2/68 คาดรายได้ยังเติบโตได้ดีอยู่ทั้งจากคำสั่งซื้อใหม่ที่รอส่งมอบอีกมากกว่า 1,600 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 68)