WTO ชี้ AI พลิกโฉมการค้าโลก ดันมูลค่าโตเกือบ 40% ภายในปี 2583

องค์การการค้าโลก (WTO) เผยแพร่รายงานฉบับใหม่เมื่อวันพุธ (17 ก.ย.) ระบุว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าสินค้าและบริการทั่วโลกเกือบ 40% ภายในปี 2583 แต่ขณะเดียวกันก็เตือนด้วยว่า หากขาดนโยบายรองรับที่เหมาะสม AI อาจสร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจให้รุนแรงยิ่งขึ้น

WTO คาดว่า การลดต้นทุนการค้าและการยกระดับผลิตภาพด้วย AI จะทำให้การค้าโลกขยายตัวราว 34-37% ภายในปี 2583 ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โลกอาจเติบโตเพิ่ม 12–13% ในช่วงเวลาเดียวกัน

โจฮันนา ฮิลล์ รองผู้อำนวยการใหญ่ WTO กล่าวว่า AI อาจกลายเป็นแสงสว่างสำหรับการค้าที่กำลังเผชิญความซับซ้อนมากขึ้น พร้อมเสริมว่า AI กำลังพลิกโฉมอนาคตเศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างประเทศ ด้วยศักยภาพในการลดต้นทุนการค้าและเพิ่มผลิตภาพ

รายงานยังชี้ว่า AI สามารถช่วยธุรกิจลดค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการสื่อสาร โดยเฉพาะเทคโนโลยีแปลภาษาอัตโนมัติที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ค้าปลีกสามารถเข้าสู่ตลาดโลกได้ง่ายขึ้น อีกทั้งอาจช่วยเพิ่มการส่งออกของประเทศรายได้ต่ำได้สูงถึง 11% หากมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม WTO เตือนว่า หากขาดการลงทุนที่ตรงเป้าและนโยบายที่ครอบคลุม AI อาจยิ่งเพิ่มความเหลื่อมล้ำ โดยระบุว่าผลกระทบจาก AI กำลังสร้างความกังวลว่าแรงงานจำนวนมาก หรือแม้แต่ทั้งระบบเศรษฐกิจ อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา ผู้อำนวยการใหญ่ WTO กล่าวย้ำว่า ผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องบริหารจัดการการเปลี่ยนผ่านสู่ AI อย่างรอบคอบ พร้อมเน้นความจำเป็นในการสนับสนุนด้านการศึกษา การพัฒนาทักษะ การฝึกอบรมใหม่ และระบบสวัสดิการสังคม

ทั้งนี้ กฎการค้าโลกที่ WTO ดูแลกำลังเผชิญความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในปีนี้ หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตรการเก็บภาษีนำเข้ากับประเทศต่าง ๆ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 68)

ข่าวล่าสุด