
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
“น้อมรับสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และระบุว่า ต้องพยายามอธิบายและทำความเข้าใจของกับสังคม เราจะเป็นนั่งร้านหรือไม่ก็อยู่ที่การทำหน้าที่ของเราถ้าเราทำหน้าที่ฝ่ายค้านเข้มแข็งอย่างเต็มที่ ก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า พรรคประชาชนไม่ได้เป็นนั่งร้านให้นายอนุทิน หรือพรรคภูมิใจไทย และสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่า ตกลงแล้วภูมิใจไทยละเมิดข้อตกลงหรือไม่ ต้องดูที่การลงมติในสภา และเสียง สส. ตอนนี้คงไม่ได้ชัดมาก แต่สิ่งที่ตอบได้ชัดคือ เราพร้อมใช้ทุกกลไกในสภาฯ ในการตรวจสอบ ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไร ต้องมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งว่า มีเหตุที่ทำให้เราต้องยื่นหรือไม่” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่ามีกลุ่มการเมืองทยอยเข้ามาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจละเมิด MOA นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป แต่สิ่งที่จะพิสูจน์ได้คือการลงมติในสภาฯ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ขาดว่าพรรคภูมิใจไทย ละเมิดข้อตกลงหรือไม่ พร้อมย้ำว่าพรรคประชาชนพร้อมใช้อาวุธทางการเมืองทุกกลไก ตั้งแต่การอภิปรายในสภาฯ ไปจนถึงการยื่นไม่ไว้วางใจ หากรัฐบาลใช้อำนาจไม่เหมาะสม
สำหรับเวทีแรกที่เราทำหน้าที่แน่นอน คือการอภิปรายวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากเวทีนั้นไม่สามารถทำให้เกิดการยับยั้ง หรือมีการกระทำความผิดขึ้นมาจริง ๆ มีการใช้อำนาจที่ไม่เหมาะสมจริง ๆ เราพร้อมจะใช้กลไกอื่น ๆ ที่เป็นอาวุธที่แรงมากขึ้น เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และผลการลงมติก็จะเป็นตัวตัดสินว่าตกลงแล้ว พรรคภูมิใจไทยได้ละเมิดข้อตกลงหรือไม่อย่างไร
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมในการเตรียมอภิปรายนโยบายของรัฐบาลว่า ได้เริ่มพูดคุยกับ สส.ที่จะอภิปรายแล้ว เบื้องต้นพรรคจะมอบหมายให้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคฯ รับผิดชอบเรื่องนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบวันที่แน่นอน คาดว่าจะใช้เวลาอภิปราย 2 วัน เช่นเดียวกับการอภิปรายนโนยายของรัฐบาลที่ผ่านมาในยุครัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
ส่วนสถานะของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากมี สส.หรือสมาชิกพรรคเป็นรัฐมนตรีก็ไม่สามารถเป็นฝ่ายค้านได้ ส่วนโครงสร้างวิปฝ่ายค้านต้องรอให้มีความชัดเจนของพรรคฝ่ายค้านก่อน และมีการโปรดเกล้าฯ ครม.ใหม่ จะมีความชัดเจนในการดำเนินการของวิปฝ่ายค้านต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 68)