กทม.เตรียมพร้อม!! เฝ้าระวังน้ำเหนือ-น้ำทะเลหนุนสูงถึง 22 ก.ย.นี้

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนรองรับมวลน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯว่า กทม. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมประสานกรมชลประทาน (ชป.) กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเฝ้าระวังและจัดทำแผนการเตรียมความพร้อมแผนรองรับมวลน้ำที่กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,000-2,500 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที

ทั้งนี้ ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 40-60 เซนติเมตร รวมถึงสถานการณ์จากน้ำทะเลหนุนที่ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ระดับน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

สำหรับในเขตกรุงเทพฯ ตามที่ กรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือน โดยความพร้อมของแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งมีความยาวตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ รวม 88 กิโลเมตร (กม.)

โดยแบ่งเป็นแนวป้องกันฯ ในส่วนของ กทม. 80 กม. ส่วนอีก 8 กม. ที่เหลือ ประกอบด้วย แนวป้องกันฯ ในพื้นที่ของเอกชน หรือหน่วยงานอื่น 3.65 กม. กับแนวป้องกันน้ำฯ ที่ยังไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ หรือเป็นแนวฟันหลอ 4.35 กม. ขณะนี้ สนน. ได้จัดเรียงกระสอบทราย เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนและน้ำเหนือหลากแล้วเสร็จ โดยมีระดับความสูงอยู่ที่ +2.40 เมตร.ระดับทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ถึง +2.70 ม.รทก.

สำหรับบริเวณที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างแนวป้องกันฯ ได้เรียงกระสอบทรายเช่นเดียวกับแนวฟันหลอ ส่วนบ้านเรือนชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำและพื้นที่จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำตามแนวริมแม่น้ำที่อาจได้รับผลกระทบ ได้จัดเรียงกระสอบทรายบริเวณพื้นทางเดินและจุดพื้นที่ต่ำของชุมชนนอกที่อยู่นอกแนว เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำไหลเข้าท่วมชุมชนบ้านเรือน

ขณะเดียวกัน ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามชุมชนนอกแนว เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในบางพื้นที่ เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน จัดเจ้าหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวังตามแนวริมแม่น้ำโดยเฉพาะในช่วงที่มีระดับน้ำสูงสุดรอบวันตามข้อมูลฐานน้ำของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ

พร้อมทั้งจัดเตรียมความพร้อมด้านระบบระบายน้ำประกอบด้วย อุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง สถานีสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในพื้นที่ฝั่งพระนครมี 47 แห่ง และพื้นที่ฝั่งธนบุรีมี 49 แห่ง กำลังสูบรวม 1230.55 ลบ.ม./วินาที รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของประตูระบายน้ำสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ ตรวจสอบความพร้อมของงานระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ควบคุม จัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ และจัดเจ้าหน้าที่ประจำการตามสถานีสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมกระสอบทรายสำรองกรณีฉุกเฉินอีก 914,800 ใบ และในช่วงต้นเดือน ก.ย. 68 ที่ผ่านมา สนน. ได้จัดประชุมร่วมกับ 19 สำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 68 อีกทั้งยังมีศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ภายในสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการความร่วมมือช่วยเหลือประชาชน โดยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา สถานประกอบการ ที่อยู่บริเวณริมน้ำ โดยเฉพาะชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว หรือบริเวณแนวฟันหลอในเขตกรุงเทพฯ ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีระดับสูงในช่วงเวลาดังกล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 68)