รัฐบาลอินโดฯ ลงโฆษณาเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ ชี้แจงบทบาทกองทัพเพิ่มขึ้น

กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียได้ลงโฆษณาเต็มหน้าหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ที่สุดของประเทศในวันนี้ (22 ก.ย.) เพื่อให้รายละเอียดและปกป้องโครงการสำคัญต่าง ๆ ที่กองทัพเข้าไปดูแล ซึ่งไม่ใช่ภารกิจด้านกลาโหมโดยตรง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ากองทัพมีบทบาทมากขึ้นในยุคของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต

นับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ปราโบโวได้เพิ่มตำแหน่งในรัฐบาลให้แก่บุคลากรของกองทัพ และมอบหมายให้กองทัพเข้ามาขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ซึ่งทำให้นักศึกษาและนักกิจกรรมกังวลว่า อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก อาจย้อนกลับไปสู่ยุค “ระเบียบใหม่” (New Order) สมัยผู้นำเผด็จการซูฮาร์โต ที่กองทัพมีบทบาทครอบงำประเทศ

โฆษณาดังกล่าวตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Kompas โดยพาดหัวว่า “No Longer Just Military: Indonesian-style People’s Defense” (กองทัพเปิดทาง ประชาชนร่วมป้องกันประเทศ) โดยเนื้อหาระบุว่า นโยบายของกระทรวงกลาโหมได้ขยายและปรับเปลี่ยนไปสู่ “การป้องกันประเทศโดยประชาชน ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความมั่งคั่งและความร่วมมือข้ามภาคส่วน”

ที่ผ่านมา ปราโบโวได้ส่งทหารเข้าไปทำภารกิจหลากหลายด้าน ตั้งแต่โครงการอาหารกลางวันฟรี การผลิตยา การขับเคลื่อนโครงการภาคการเกษตร ไปจนถึงการเข้ายึดพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน

โฆษณาระบุว่า รัฐบาลมุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของชาติด้วยการมีส่วนร่วมของกระทรวงกลาโหม พร้อมยกตัวอย่าง 10 โครงการ ซึ่งรวมถึงโครงการอาหารกลางวันฟรี การจัดตั้งกองพันทหารบกใหม่ 100 กองพันเพื่อรับผิดชอบภารกิจด้านสาธารณสุขและการเกษตร ตลอดจนการใช้ห้องปฏิบัติการของกองทัพเพื่อผลิตยา

ในโฆษณา กระทรวงกลาโหมยังระบุว่าได้ฝึกอบรมและจัดเตรียมบัณฑิตจบใหม่หลายพันคนด้วย “แนวทางแบบทหาร” และความรู้ด้านโภชนาการ เพื่อไปประจำตามโรงครัวทั่วประเทศ โดยบัณฑิตเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโรงครัวหรือนักโภชนาการ

กระทรวงฯ ยังระบุด้วยว่า ตั้งเป้าจะเพิ่มกองพันทหารบกให้ได้ 500 กองพันภายใน 5 ปี เพื่อ “พิทักษ์โครงการยุทธศาสตร์ของรัฐบาล”

นักวิชาการระบุว่า นโยบายลักษณะนี้เป็นการ “แปรรูปกิจการพลเรือนให้เป็นงานด้านความมั่นคง” โดยรัฐบาลแค่พยายามใช้โฆษณาเพื่อขายแนวคิดนี้ให้ประชาชน แต่ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะอย่างไรเสียรัฐบาลก็ลงมือทำไปแล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 68)