เงินบาทเปิด 32.45 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค ไร้ปัจจัยใหม่ จับตาภาวะชัตดาวน์สหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.45 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.37 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวอ่อนค่า เป็นไปตามดอลลาร์ที่ปรับตัวแข็งค่า โดยยังไม่มีปัจจัยใหม่ เนื่องจากรัฐบาล สหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะชัตดาวน์ ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ต้องประกาศเมื่อคืนนี้ยังไม่ประกาศออกมา

ในช่วงนี้ตลาดรอติดตามความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันว่าสหรัฐฯ จะสามารถหลุดจาก ภาวะชัตดาวน์ได้หรือไม่

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.35-32.55 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.48 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 146.65 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1752 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.429 บาท/ดอลลาร์
  • รมช.คลัง จับตาปมสหรัฐชัตดาวน์ หวั่นสถานการณ์ยืดเยื้อบานปลายลุกลามกระทบไทย พร้อมกางแนวทางเตรียมรับมือ กระทุ้ง “แบงก์ชาติ” ดูแลเสถียรภาพค่าเงิน หาตลาดส่งออกเสริม เตรียมสินเชื่ออุ้มเอสเอ็มอี-ผู้ประกอบการส่งออกที่อาจ ถูกกระทบ “เอกชน” ไม่วิตก ยันไม่กระทบไทย เหตุเกิดขึ้นบ่อยและคาดการณ์ได้
  • ‘พาณิชย์’ เผยดัชนีราคาผู้ผลิตไทย เดือน ก.ย.68 หดตัวตามอุปทานส่วนเกินในตลาดที่สูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็ง ค่า พร้อมประเมินแนวโน้มไตรมาส 4 ยังหดตัวต่อเนื่อง จากการแข่งขันที่ยังรุนแรงและบาทแข็งโป๊กต่อเนื่อง
  • เอสซีจี ระดมความเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม พร้อมผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ กว่า 300 ราย จัดทำเป็นสมุดปกขาว เตรียมยื่นให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแนวคิดการเปลี่ยนผ่านเร่งด้วยกรีน รอด ด้วยกัน เป็นการร่วมออกแบบ และขับเคลื่อนนโยบายโครงการที่ทำให้ประเทศไทยแข่งขันได้อย่างยั่งยืน เพื่อให้ทำให้ไทยกลับมามีอัตราการ เติบโตทางเศรษฐกิจในอัตราสูงเช่นเดียวกับที่ผ่านมา ผ่านมาตรการ 3 ด้าน
  • รมว.ท่องเที่ยวฯ สั่ง ททท.ตั้งโจทย์ใหม่กระตุ้นท่องเที่ยวโค้งท้ายปี ตั้งเป้าฟื้นตลาดจีนเที่ยวไทย 2-3 ล้านคนในช่วงอายุ รัฐบาล 4 เดือน กลับคืนแชมป์ยักษ์ท่องเที่ยวไทย
  • การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ล่วงเข้าสู่วันที่ 3 ในวันนี้ ขณะที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังไม่สามารถตกลงกันได้ เกี่ยวกับการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว โดยการชัตดาวน์ครั้งนี้ทำให้กระทรวงแรงงานต้องระงับกิจกรรมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยตัว เลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ที่เดิมมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของ สหรัฐฯ
  • ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกรายงานระบุว่า การที่สหรัฐฯ เผชิญภาวะชัตดาวน์ในขณะนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือ ในระยะใกล้ ส่วนผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าภาวะชัตดาวน์จะขยายวงกว้างและยืดเยื้อนานเพียงใด ขณะที่เอส แอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ ระบุว่า โดยปกติแล้วภาวะชัตดาวน์มักส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมเพียงเล็กน้อย และไม่ถือเป็นปัจจัยที่ จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) โดยดอลลาร์ฟื้นตัวหลังจากที่อ่อนค่าลงติดต่อกันหลายวัน ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการปิด หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) หลังจากลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาดัลลัสกล่าวว่า คณะกรรมการเฟดควรใช้ความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวได้ฉุด ราคาทองคำปรับตัวลงจากระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันพุธ
  • นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ยังคงมีมุมมองบวกต่อราคาทองคำ โดยคาดว่าราคาทองมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงกลางปี 2569 และแตะที่ระดับ 4,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในเดือนธ.ค. 2569 
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เลื่อนการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ออกไปจากกำหนดการเดิม ในวันนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ชัตดาวน์ ทำให้นักลงทุนหันไปจับตาข้อมูลแรงงานจากภาคเอกชน โดยข้อมูลจากแชลเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส (Challenger, Gray & Christmas) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงานของสหรัฐฯ ระบุว่า นายจ้างใน สหรัฐฯ ประกาศเลย์ออฟพนักงานน้อยลงในเดือนก.ย. แต่แผนการจ้างงานนับตั้งแต่ต้นปีนี้อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 
  • นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้ หลังสหรัฐฯ เผชิญ ภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอในภาคเอกชนสหรัฐฯ
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะมีการพบกัน นอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก (APEC) ที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ซึ่งจะทำให้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 68)