
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงการประเมินภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น 8 จาก 9 ภูมิภาคทั่วประเทศไว้ตามเดิม แม้สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากร โดยภูมิภาคเดียวที่ BOJ ปรับลดมุมมองคือ ฮอกไกโด เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจหลักของภูมิภาคซบเซาลง สาเหตุสำคัญมาจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายน้อยลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเอเชีย
รายงานเศรษฐกิจระดับภูมิภาครายไตรมาส หรือ “รายงานซากุระ” ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (6 ต.ค.) ระบุว่า เศรษฐกิจทั้ง 9 ภูมิภาค “กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป” “ปรับตัวดีขึ้น” หรือ “ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป” แม้บางพื้นที่จะแสดงสัญญาณอ่อนตัวลงบ้าง แต่โดยรวมแล้วยังคงใช้ถ้อยคำประเมินเช่นเดียวกับครั้งก่อน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า BOJ ได้สรุปมุมมองนี้จากการประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศเมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยที่ประชุมชี้ว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ทำให้หลายบริษัทต้องชะลอหรือทบทวนแผนการลงทุน
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อการส่งออกและการผลิตนั้น หลายสาขารายงานตรงกันว่า สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางบริษัทต่าง ๆ ที่จะผลักภาระต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นไปรวมในราคาขายสินค้า
รายงานยังระบุอีกว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ทำให้ผู้บริโภครัดเข็มขัดมากขึ้น ข้อมูลจากซูเปอร์มาร์เก็ตชี้ว่าลูกค้าซื้อของน้อยชิ้นลง ส่วนร้านอาหารที่ขึ้นราคาก็พบว่ามีลูกค้าน้อยลงเช่นกัน
BOJ เผยแพร่รายงานซากุระฉบับล่าสุดนี้ก่อนจะมีการประชุมนโยบายการเงินในช่วงปลายเดือนต.ค. ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะหยิบยกประเด็นการกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 68)