ปัญหาคนไม่พอฉุดเที่ยวบินสหรัฐฯ ระส่ำระสาย ภาวะชัตดาวน์ยังไร้วี่แววยุติ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ต.ค.) องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) ยอมรับว่า ปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ส่งผลให้เที่ยวบินในสนามบินหลายแห่งล่าช้า ซึ่งคำชี้แจงดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านคมนาคมระบุว่า อัตราการลาป่วยของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนับตั้งแต่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการ หรือชัตดาวน์

แม้รัฐบาลจะชัตดาวน์ แต่เจ้าหน้าที่ที่มีบทบาทสำคัญอย่างผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศราว 13,000 คน และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงด้านการขนส่ง (TSA) อีกประมาณ 50,000 คน ยังต้องมาทำงานตามปกติ แต่กลับไม่ได้รับค่าจ้าง ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศกำลังจะไม่ได้เงินเดือนงวดแรกในวันที่ 14 ต.ค.นี้

ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีคมนาคม เปิดเผยว่า นับแต่การชัตดาวน์เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน บางพื้นที่ถึงกับมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศลดลงไปครึ่งหนึ่ง

FAA ระบุว่า ปัญหาขาดคนกระทบเที่ยวบินในสนามบินหลายแห่ง ทั้งนวร์ก ฟีนิกซ์ เดนเวอร์ ลาสเวกัส และเบอร์แบงก์ ขณะที่ข้อมูลจาก FlightAware ชี้ว่า เฉพาะวันจันทร์วันเดียว มีเที่ยวบินในสหรัฐฯ ล่าช้ากว่า 4,000 เที่ยว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สนามบินเดนเวอร์มีเที่ยวบินขาเข้าล่าช้าถึง 29% ตามมาด้วยนวร์ก 19% และลาสเวกัส 15% นอกจากนี้ ปัญหาสภาพอากาศก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ซ้ำเติมสถานการณ์

ดัฟฟีย้ำว่า หากคนยังขาดแคลนเช่นนี้ เที่ยวบินจะล่าช้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ และหากมีคนลาป่วยมากขึ้น ก็จำเป็นต้องลดปริมาณเที่ยวบินลง เพื่อให้การสัญจรทางอากาศยังคงปลอดภัย

ดัฟฟีสะท้อนความกังวลของเจ้าหน้าที่ว่า “พวกเขาคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะได้เงินเดือนไหม” และเสริมว่าบางคนถึงกับถามตัวเองว่า “ต้องไปขับอูเบอร์เป็นอาชีพเสริมหรือเปล่า ทั้งที่งานหลักก็เครียดและเหนื่อยสายตัวแทบขาดอยู่แล้ว”

ด้านสหภาพเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศก็ได้ออกแถลงการณ์ย้ำเตือนสมาชิกในวันจันทร์ว่า การนัดกันลาป่วยหมู่อาจมีโทษถึงขั้นถูกให้ออกจากงานได้ และถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการชัตดาวน์นาน 35 วัน เมื่อปี 2562 โดยเมื่อผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศและเจ้าหน้าที่ TSA เริ่มไม่ได้รับเงินเดือน อัตราการขาดงานก็พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องรอคิวที่จุดตรวจนานขึ้นในสนามบินบางแห่ง ท้ายที่สุด ทางการต้องสั่งลดปริมาณเที่ยวบินในนิวยอร์ก ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันให้ฝ่ายนิติบัญญัติต้องรีบหาทางออกเพื่อยุติการชัตดาวน์โดยเร็ว

สถานการณ์นี้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อพิจารณาว่า ปัญหาขาดแคลนผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศเป็นปัญหาเรื้อรังอยู่แล้ว หลายคนต้องทำงานล่วงเวลาและทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์เป็นเรื่องปกติ ปัจจุบัน FAA ยังขาดเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งนี้อีกถึง 3,500 คนจึงจะครบตามเป้าหมาย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 68)