
ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่กู้วิกฤตประเทศด้วย ESG !?
จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ตัดขาดการสื่อสาร ไปจนถึงยุคภัยไซเบอร์ระบาดรายวัน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ AIS ได้นำหลักการ ESG ผนวกเข้ากับการทำธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือคนไทยไม่มากก็น้อย !
“All About ESG” EP. นี้ พามาคุยกับนางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ จาก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส [ADVANC] หรือ AIS ที่จะมาเฉลยว่าองค์กรปรับใช้หลัก ESG อย่างไรจึงสามารถเซฟโลกในมิติของสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลได้อย่างครอบคลุม
“คำว่า ESG เป็นสิ่งที่อยู่ใน DNA ของ AIS อยู่แล้ว” นางสายชล กล่าวกับ “อินโฟเควสท์”
ดังนั้น ในทุกกระบวนการทำงานขององค์กร จึงมีการถักทอสิ่งที่เรียกว่า ESG เข้าไปอย่างต่อเนื่องภายใต้แผนกลยุทธ์ “Sustainability Business Strategy Plan” ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 แกนหลัก ได้แก่
1) การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Drive Digital Economy)
2) การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย (Promote Digital Inclusion)
3) การยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม (Act on Climate)
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานใน 3 แกนข้างต้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ AIS ได้นำ AI เข้ามาปรับใช้ในการทำธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ที่มีชื่อว่า “AI for Sustainable Nation” ซึ่งประกอบไปด้วย 4 เสาหลักดังนี้
เสาที่หนึ่ง !! Digital Infrastructure
นำ AI เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการเครือข่าย ทำให้สามารถคาดการณ์และรู้ช่วงเวลาที่เป็นช่วงพีค (Peak) ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการใช้ AI จัดการเครือข่ายนี้มีประโยชน์ 2 ด้านหลักคือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย และช่วยบริหารจัดการพลังงานที่ใช้ในเครือข่ายได้ดียิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเคสที่น่าสนใจคือ ปีก่อนเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่เชียงราย เมื่อกระแสน้ำมาอย่างรวดเร็ว ทำให้สัญญาณเครือข่ายอาจได้รับผลกระทบ ดังนั้น AI จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการปรับลดการใช้พลังงานในแต่ละสถานีฐาน ทำให้สถานีฐานสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบยังคง Stay Connect และสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้
เสาที่สอง !! Digital Talents
ความหมายก็คือ คนในองค์กรจะต้องมีความรู้ในการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และจะต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญนอกเหนือจากความรู้คือ บุคลากรจะต้องมี จิตสำนึกและความรับผิดชอบด้วย เนื่องจาก AI มีข้อดีอยู่มาก แต่ก็หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่น่ากลัวได้ ดังนั้นการปลูกฝังเรื่องจิตสำนึกตรงนี้จึงสำคัญ
เสาที่สาม !! Digital Safety
บริษัทมีการพัฒนาระบบหรือเครื่องมือเพื่อช่วยให้ประชาชนที่ใช้บริการของ AIS มีความปลอดภัยในการใช้บริการเทคโนโลยี อาทิเรื่อง PDPA : Personal Data Protection Act ที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก ในการดูแลและป้องกันข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า โดยมีศูนย์บัญชาการภายในเพื่อดูแลข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้าโดยเฉพาะ
อีกส่วนงานที่สำคัญคือการให้ความรู้แก่สังคมผ่านหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” เพื่อให้ประชาชนสามารถปกป้องตัวเองได้เมื่ออยู่บนโลกไซเบอร์ เป้าหมายคือการให้คนไทยทุกคนมี Critical Thinking รู้จักสงสัย ถามหาข้อมูล ก่อนที่จะปักใจเชื่อข้อมูล, SMS, หรือลิงก์ที่ได้รับมา
เสาที่สี่ !! Digital Green
บริษัทมีการพัฒนา Solution ต่าง ๆ เพื่อให้ภาคการผลิตและภาคอุตสาหกรรมสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้เพื่อประหยัดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนคือการลดการใช้กระดาษ อย่างสมัยก่อนบางอุตสาหกรรมต้องพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน หรือใบนัดต่าง ๆ แต่ด้วย Solution ที่เราพัฒนาขึ้นมา รวมถึงระบบโครงข่ายของเรา ก็ทำให้ทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์ได้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าที่ใช้หล่อเลี้ยงสถานีฐาน, Data Center หรือหน่วยทำงานอื่น ๆ ขององค์กรมาใช้พลังงานสะอาด อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
“ไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่ แต่ผู้ประกอบการ SME หรือองค์กรขนาดเล็กก็สามารถเริ่มทำ ESG ได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นจาก “Belief (ความเชื่อ)” ซึ่งต้องมาจากผู้ก่อตั้งหรือคนในองค์กร เมื่อมีความเชื่อแล้ว การนำ ESG ไปหลอมรวมในกระบวนการธุรกิจก็ไม่ใช่เรื่องยาก” นางสายชล กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 68)