
ซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของญี่ปุ่น ออกมาแสดงจุดยืนว่า แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเป็นผู้กำหนดนโยบายการเงิน แต่ทุกการตัดสินใจจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล
ทาคาอิจิให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า สถานการณ์เงินเฟ้อของญี่ปุ่นขณะนี้มาจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ไม่ใช่จากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
ทาคาอิจิเน้นว่า ควรตั้งเป้าหมายให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป พร้อมย้ำว่า การกำหนดนโยบายการเงินเป็นอำนาจของ BOJ แต่ทุกการตัดสินใจต้องสอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
ส่วนเรื่องค่าเงินเยน ทาคาอิจิระบุว่า ไม่ต้องการให้เยนอ่อนค่ามากเกินไป โดยเงินเยนอ่อนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ช่วยผู้ผลิตที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ แต่ในขณะเดียวกันก็กดดันครัวเรือน เพราะทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบสูงขึ้น
ทาคาอิจิประกาศว่า หากได้รับเลือกจากรัฐสภาเป็นนายกรัฐมนตรี จะเร่งออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพทันที รวมถึงเสนอร่างกฎหมายลดภาษีน้ำมันและจัดทำงบประมาณเพิ่มเติม
“เราต้องผ่านร่างกฎหมายลดภาษีน้ำมันในรัฐสภา และจัดทำงบประมาณเพิ่มเติม มิฉะนั้นประชาชนจะยังคงประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูง ซึ่งกระทบต่อการบริโภค กำไรบริษัท และเศรษฐกิจโดยรวม” ผู้นำพรรค LDP คนใหม่กล่าว
ทั้งนี้ ชัยชนะของทาคาอิจิในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เธอมีโอกาสก้าวเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น และส่งผลให้ค่าเงินเยนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากตลาดลดความคาดหวังการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของ BOJ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)