
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชนว่า แนวทางที่เป็นไปได้ในขณะนี้ คือ การจัดตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) ผ่านกลไกการซื้อหนี้ออกมาจากระบบธนาคาร โดยใช้เงินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท ดำเนินการผ่าน บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินปลายเดือน ต.ค. นี้ หลังจากนั้นจะต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2569
“AMC เป็นแนวคิดที่ทำมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเบื้องต้นจะดำเนินการกับกลุ่มหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาท กว่า 2 ล้านคน จากทั้งหมด 3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้เสียที่อยู่ในธนาคารพาณิชย์ 7 แสนกว่าคน สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 7 แสนกว่าคน และนอนแบงก์ที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินอีก 8 แสนกว่าคน ส่วนลูกหนี้ที่อยู่กับนอนแบงก์อาจจะต้องดำเนินการในระยะถัดไป เนื่องจากมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โดยหลักการคือ ต้องดุว่าก้อนไหนทำง่ายที่สุด อยากทำให้จบเร็ว ปริมาณเยอะ แต่ถ้าทำได้หมดก็อยากทำ ส่วนถ้าทำหมดแล้วกระบวนการช้ามากก็อาจจะปรับเป็นเฟส โดยตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง” ผู้ว่าการ ธปท. ระบุ
นายวิทัย เชื่อมั่นว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยลดหนี้ครัวเรือนได้ ซึ่งหลายฝ่ายอยากเห็นลดลงมาอยู่ที่ 80% แต่ส่วนตัวอยากลดลงมาให้มากที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าหากลดลงมามากก็ไม่ดี เพราะอาจจะเป็นข้อสงสัยเรื่องเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างไม่ใช่การกดปุ่มออกมาตรการแล้วจบ แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาทำหลายมาตรการต่อเนื่องเหมือนจิ๊กซอว์มาต่อกัน และหลายหน่วยงานต้องร่วมด้วยช่วยกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)