
วันนี้ (10 ต.ค.) รัฐบาลมาเลเซียเสนอกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 4.192 แสนล้านริงกิต (9.9924 หมื่นล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 1.7% มุ่งเดินหน้าปฏิรูปภาคการคลังต่อเนื่อง เพื่อลดการขาดดุลและรับมือความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความไม่แน่นอนด้านภาษีการค้ากับสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม เตรียมแถลงรายละเอียดงบประมาณประจำปี 2569 ต่อรัฐสภาในเวลา 16:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างฐานะการคลังของประเทศ แม้ว่าภาคการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ก็ตาม
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2565 รัฐบาลอันวาร์ได้ริเริ่มมาตรการหลายอย่างเพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐ เช่น การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ การขยายฐานภาษีการขาย และการปรับโครงสร้างเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงอย่างตรงจุดมากขึ้น
นายกฯ อันวาร์ระบุในคำนำของรายงานแนวโน้มการคลังว่า “รัฐบาลมีความรับผิดชอบที่จะต้องดำเนินการปฏิรูปเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่วินัยทางการคลังมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการบริหารจัดการความเสี่ยงภายนอกที่เพิ่มสูงขึ้น”
สำหรับงบประมาณรายจ่ายปี 2569 ที่เสนอมีมูลค่ารวม 4.192 แสนล้านริงกิต เพิ่มขึ้น 1.7% จากงบประมาณฉบับปรับทบทวนของปีนี้ที่ 4.121 แสนล้านริงกิต ประกอบด้วยรายจ่ายเพื่อการพัฒนา (Development Expenditure) 8.1 หมื่นล้านริงกิต และรายจ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenditure) 3.382 แสนล้านริงกิต
ในด้านรายได้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% เป็น 3.431 แสนล้านริงกิต ขณะที่การใช้จ่ายด้านเงินอุดหนุนและสวัสดิการสังคมคาดว่าจะลดลง 14.1% เหลือ 4.9 หมื่นล้านริงกิต อันเป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงและนโยบายการให้ความช่วยเหลือแบบมุ่งเป้า
ขณะเดียวกัน ปิโตรนาส (Petronas) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน จะนำส่งเงินปันผลให้รัฐบาล 2 หมื่นล้านริงกิต ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560
ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าลดการขาดดุลการคลังลงเหลือ 3.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2569 จากประมาณการที่ 3.8% ในปี 2568
ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจคาดว่าจะอยู่ที่ 4% ถึง 4.5% ในปี 2569 ส่วนตัวเลขคาดการณ์ของปีนี้ถูกปรับลดลงเหลือ 4% ถึง 4.8% จากเดิมที่คาดไว้ 4.5% ถึง 5.5% เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้า กรณีที่สหรัฐฯ บังคับใช้กำแพงภาษี 19% กับสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของมาเลเซีย
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ 1.3% ถึง 2% ในปีหน้า
แม้จะเผชิญความผันผวนของตลาดโลกและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ รัฐบาลระบุว่านโยบายการเงินของประเทศยังคงเอื้อต่อการเติบโต โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางมาเลเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% หลังจากการปรับลดครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อเดือนก.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 68)