
บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ [MASTEC] กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 79,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.33 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้ ที่ราคาหุ้นละ 1.45 บาท รวมมูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 114.55 ล้านบาท เปิดให้จองซื้อวันที่ 17, 20 – 21 ตุลาคม 68 และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ SET กลุ่มอุตสาหกรรม วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E Ratio) ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.45 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 9.06 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึง 30 มิ.ย. 2568 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 46.75 ล้านบาทหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 300 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.16 บาท ทั้งนี้ หากคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ก่อนออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนสำหรับการ IPO เท่ากับ 0.21 บาทต่อหุ้น (คำนวณจากจำนวนหุ้น 221,000,000 หุ้น) และกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 0.21 บาทต่อหุ้น (คำนวณจากจำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเท่ากับ 221,000,000 หุ้น)
MASTEC ประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ 1) ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล 2) ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย 3) ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมด้วยการให้คำปรึกษา นำเสนอโซลูชั่นและให้บริการด้านวิศวกรรม
วัตถุประสงค์กรใช้เงินจากการระดมทุน
1. เงินทุนเพื่อรองรับธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมสำหรับตลาดอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ว่าจ้างบุคลากรทางวิศวกรรมลงทุนอุปกรณ์วิเคราะห์ผล การวิจัยเพื่อทำผลการทดลอง การจัดกิจกรรมทางการตลาด เป็นต้น รวมถึงดำเนินการอื่นใดเพื่อสนับสนุนการจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์
2. เงินทุนเพื่อรองรับธุรกิจใน Synergy products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย เช่น การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ ว่าจ้างบุคลากรทางวิศวกรรม ลงทุนอุปกรณ์วิเคราะห์ผล การลงทุนซอฟต์แวร์ การจัดกิจกรรมทางการตลาด เป็นต้น รวมถึงดำเนินการอื่นใดเพื่อสนับสนุนการจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์
3. ขยายช่องทางการตลาดเพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ได้แก่ขยายสาขาภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและปรับปรุงหรือย้ายสำ นักงานสาขาภาคใต้เพื่อรองรับงานขายและงานบริการให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
4. เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เช่น เงินทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ก่อนแล้วของกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล และกลุ่มการป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย (ไม่รวมข้อ 1 และ 2 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่) รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานแต่ละฝ่าย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 68)