เงินบาทเปิด 32.58 คาดกรอบวันนี้ 32.40-32.65 ตลาดจับตาทิศทางราคาทอง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.58 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วานนี้ที่ระดับ 32.56 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย เคลื่อนไหวตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่วนสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อน ไหวทั้งทิศทางอ่อนค่าและแข็งค่า

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูทิศทาง ราคาทองคำเป็นหลัก

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 150.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 151.29 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1702 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1650 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.513 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้บริหารฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยเจอความเสี่ยงจาก ปัจจัยต่างประเทศ จากการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ หรือรัฐบาลสหรัฐชัตดาวน์ ซึ่งเป็นความไม่แน่นอนเพิ่มเติมที่มากดดัน เศรษฐกิจโลก โดยที่คาดว่าชัตดาวน์ครั้งนี้ อาจยืดเยื้อยาวนานกว่าในอดีตที่ชัตดาวน์เฉลี่ย 4 วัน มีการพูดถึงการปลดพนักงานรัฐมากถึง 750,000 คน ซึ่งมากขึ้นอีกเท่าตัวของตัวเลขสูงสุดในอดีต และขู่ว่าอาจไม่จ่ายเงินย้อนหลังให้ อาจมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบเศรษฐกิจ สหรัฐมากกว่าเดิม โดยหากเศรษฐกิจสหรัฐ ได้รับผลกระทบ ทำให้ไทยจะได้รับผลกระทบผ่านการส่งออกและตลาดการเงินด้วย
  • หอการค้าไทยคาด’คนละครึ่งพลัส-แพคเกจกระตุ้นท่องเที่ยว’ ทำเงินสะพัดแสนล้าน ดันจีดีพีทั้งปี’68 โตเกิน 2% แลนด์ลอร์ดจัดราคาที่ดินใจกลาง กทม.ร้อนแรง บางพื้นที่ขาย ตร.ว.ละ 4 ล้านกว่า โซนสุขุมวิทแทบทุกพื้นที่ 2.9 ล้าน
  • ปี 69 ททท.ประกาศรุกตลาด Health Tourism หวังดึงนักท่องเที่ยวในตลาดตะวันออกกลางเอเชียใต้ ชูจุด ขาย “เที่ยว พัก รักษา” หลังปีนี้รายได้ แตะ 1.25 แสนล้าน 
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวัน พฤหัสบดี (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งการที่หน่วยงานของ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงถูกชัตดาวน์
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,300 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งความกังวล เกี่ยวกับผลกระทบของการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคาร กลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ 
  • นักวิเคราะห์จาก MarketPulse กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงของเฟด และสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้า ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ โดยคาดว่าหากทั้งสองประเทศ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ก็อาจทำให้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นทะลุระดับ 5,000 ดอลลาร์/ออนซ์ 
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯวันนี้ ได้แก่ ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ย. และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาต ก่อสร้างเดือนก.ย. 
  • นักลงทุนจับตาการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ ซึ่งได้ย่างเข้าสู่วันที่ 16 ท่ามกลางความหวังริบหรี่ที่จะเห็น วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ขณะที่ เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนว่า การชัตดาวน์อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นจำนวนมากถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อ สัปดาห์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 68)