SPALI กวาดยอดจอง “ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่”กว่า 1.4 พันลบ.รับดีมานด์ฝั่งธนแน่น

นางสาวบุศรินทร์ รุ่งรัตนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายอาคารสูง บมจ.ศุภาลัย [SPALI] กล่าวว่า โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ “ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน–วงเวียนใหญ่” เปิดจองรอบพรีเซลครั้งแรกและได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม กวาดยอดขายกว่า 1.4 พันล้านบาท โดยที่กระแสตอบรับในรอบพรีเซลครั้งแรกร้อนแรงเกินคาด เป็นเครื่องยืนยันความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์ศุภาลัยในสามมิติหลัก ทำเลที่โดดเด่น ห้องชุดพร้อมดีไซน์ที่คิดจากการอยู่อาศัยจริง และโครงสร้างราคาที่คุ้มค่าเข้าถึงได้เมื่อเทียบกับโครงการในทำเลเดียวกัน

“เรามองว่าศักยภาพฝั่งธนฯ วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง ‘ที่ตั้ง’ แต่คือ ‘จังหวะที่ใช่’ สำหรับผู้ต้องการคุณภาพชีวิตระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้จริง” นางสาวบุศรินทร์ กล่าว

ในเชิงกลยุทธ์ด้านราคา โครงการสามารถเปิดขายเฉลี่ยทั้งโครงการที่ประมาณ 77,000 บาท/ตารางเมตร แสดงถึงความได้เปรียบด้านความคุ้มค่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยยูนิตแบบ 1 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 35 ตารางเมตร ราคาเริ่มเพียง 2.19 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากความเชี่ยวชาญในการบริหารต้นทุนทั้งด้านราคาที่ดินและงานก่อสร้าง อันเป็นจุดแข็งของศุภาลัยที่สามารถส่งมอบคุณภาพระดับพรีเมียม ควบคู่ไปกับระดับราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้

นอกจากนี้ โครงการตั้งอยู่ใกล้ MRT สายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) สถานีรพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ในระยะเพียง 350 เมตร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดเปิดใช้งานในปี 72 สอดคล้องกับกำหนดแล้วเสร็จของโครงการคอนโดมิเนียม ทำให้ลูกค้าสามารถเริ่มต้นการอยู่อาศัยพร้อมระบบขนส่งมวลชนใหม่ได้ทันที ขณะที่อีกด้านหนึ่งคือ BTS สายสีเขียว สถานีวงเวียนใหญ่ หรือโพธิ์นิมิตรก็อยู่ในระยะเพียง 900 เมตร ซึ่งเชื่อมตรงเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน โดยโครงการได้จัดเตรียมบริการ Shuttle Bus รับ-ส่งจากโครงการถึงสถานี BTS โพธิ์นิมิตร เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัย

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ ยังพัฒนาให้ทุกการออกแบบตั้งต้นจากวิถีการอยู่อาศัยจริง รายละเอียดของแปลนและฟังก์ชันถูกกำหนดตามทิศทางแสงและลม เพื่อให้ยูนิตสอดรับกับพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างแท้จริง ซึ่งความสำเร็จยอดขายกว่า 1.4 พันล้านบาท ตั้งแต่รอบพรีเซลของ ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ จึงเป็นหลักฐานชัดเจนว่าการผสานกันของทำเลศักยภาพ จังหวะการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ดีไซน์ที่เข้าใจการใช้ชีวิต และโครงสร้างราคาที่เหนือกว่าคู่แข่ง สามารถเปิดเกมรุกในตลาดคอนโดฯ ฝั่งธนบุรีได้อย่างงดงาม พร้อมวางตำแหน่งโครงการให้เป็นตัวเลือกพรีเมียมที่เข้าถึงได้สำหรับทั้งผู้อยู่อาศัยจริงและนักลงทุน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 68)