เกษตรกรสหรัฐฯ ไม่พอใจ หลังทรัมป์ผุดแผนเพิ่มนำเข้าเนื้อวัวจากอาร์เจนตินา

บรรดาเกษตรกรในสหรัฐฯ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า สหรัฐฯ อาจนำเข้าเนื้อวัวจากอาร์เจนตินาเพิ่มขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกษตรกรชาวอเมริกันเพิ่งพลาดโอกาสในการขายถั่วเหลืองให้กับจีน อันเนื่องมาจากการที่จีนหันไปซื้อถั่วเหลืองจากอาร์เจนตินา

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (19 ต.ค.) ว่า เขากำลังพิจารณาการนำเข้าเนื้อวัวเพื่อลดราคาเนื้อวัวในสหรัฐฯ ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยในระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า “ถ้าเราซื้อเนื้อวัวจากอาร์เจนตินา มันก็จะเป็นการช่วยอาร์เจนตินาซึ่งเราถือว่าเป็นประเทศที่ดีมาก เป็นพันธมิตรที่ดีมาก”

กลุ่มผู้ผลิตปศุสัตว์มองว่า แผนการดังกล่าวของปธน.ทรัมป์เป็นภัยคุกคามต่อดำรงชีวิตและตลาดเสรีของพวกเขา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เกษตรกรกำลังทำกำไรจากราคาปศุสัตว์ที่สูงขึ้นและความต้องการของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง

โคลิน วูดอลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอุตสาหกรรมผู้ผลิตปศุสัตว์แห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า แผนการดังกล่าวของทรัมป์มีแต่จะสร้างความวุ่นวาย โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตปศุสัตว์ของอเมริกัน พร้อมกับกล่าวว่าแผนการนี้ไม่ได้ช่วยทำให้ราคาสินค้าในร้านขายของชำลดลงแม้แต่น้อย

ในเดือนก.ย.ที่ผานมา รัฐบาลทรัมป์ได้สร้างความไม่พอใจให้กับเกษตรกรโดยการเจรจาสนับสนุนทางการเงินให้กับอาร์เจนตินา ในขณะที่อาร์เจนตินากำลังขายถั่วเหลืองให้กับจีน ซึ่งไม่ได้ซื้อถั่วเหลืองจากการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงของสหรัฐฯ แม้แต่น้อย เนื่องจากจีนมีความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ

ด้านนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การนำเข้าเนื้อวัวเพิ่มขึ้นจากอาร์เจนตินา ไม่น่าจะทำให้ราคาเนื้อวัวของสหรัฐฯ ลดลงได้ เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่สามารถซื้อเนื้อวัวจากอาร์เจนตินาได้มากพอที่จะทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ นำเข้าเนื้อวัวจากอาร์เจนตินาเพียง 2% ของการนำเข้าเนื้อวัวทั้งหมดของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การนำเข้าเนื้อวัวยังอาจบั่นทอนความตั้งใจของผู้ผลิตสหรัฐฯ ในการขยายฝูงปศุสัตว์เพื่อเพิ่มการผลิตเนื้อวัวภายในประเทศอีกด้วย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 68)