
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% ในวันอังคาร (21 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
- ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 250.30 ดอลลาร์ หรือ 5.74% ปิดที่ 4,109.10 ดอลลาร์/ออนซ์
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำ All Time High ที่ระดับ 4,381.21 ดอลลาร์ และพุ่งขึ้นราว 60% ในปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนกระแสคาดการณ์เฟดปรับลดดอกเบี้ย และการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง
ราคาทองปรับตัวลงในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.4%
นักวิเคราะห์จาก Citi คาดการณ์ว่า การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลซึ่งมีแนวโน้มสิ้นสุดลงในไม่ช้านี้ และความเป็นไปได้ที่จีนและสหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า อาจส่งผลให้ราคาทองคำเข้าสู่ภาวะปรับฐานในอีก 2 หรือ 3 สัปดาห์ข้างหน้า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 100% ที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บจากจีนเพิ่มเติมนั้น จะไม่มีความยั่งยืน ขณะเดียวกันทรัมป์ได้แสดงความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างเป็นธรรมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน โดยคำกล่าวของทรัมป์ส่งสัญญาณถึงการลดท่าทีอันแข็งกร้าวที่มีต่อจีน ก่อนที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะพบกับเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนในสัปดาห์นี้ และก่อนที่ทรัมป์จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้
นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค. ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 96.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 68)