ทองปิดบวก $80.2 ภูมิรัฐศาสตร์ตึงเครียดหนุนซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 80.2 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 4,145.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทลูคอยล์ (Lukoil) และรอสเนฟต์ (Rosneft) สองบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระที่สอง โดยมีเป้าหมายที่จะกดดันให้รัสเซียทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน

ขณะเดียวกัน สื่อรายงานว่า คณะบริหารของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ไปยังจีน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ครอบคลุมถึงแล็ปท็อปไปจนถึงเครื่องยนต์เครื่องบิน เพื่อตอบโต้จีนที่จำกัดการส่งออกแร่หายาก ซึ่งถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศ

นักวิเคราะห์ของ JP Morgan คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5,055 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในไตรมาส 4 ของปี 2569 โดยตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานที่ว่า อุปสงค์ของนักลงทุนและการซื้อทองคำของธนาคารกลางจะมีค่าเฉลี่ยราว 566 ตัน/ไตรมาสในปี 2569

นาตาชา คาเนวา หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกของ JP Morgan กล่าวว่า “ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่เรามีความเชื่อมั่นสูงสุดสำหรับปี 2569 และเรามองว่าราคาทองยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไป ขณะที่ตลาดเข้าสู่วงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)”

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.1% เช่นกันในเดือนส.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ต.ค. 68)