Media Talk: “ข้อมูลที่เชื่อถือได้ + AI” ดาต้าเซ็ตชี้ทางออกสู่การตัดสินใจแม่นยำในยุค Data Overload

ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า Data Overload หรือข้อมูลล้นโลก ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับนักสื่อสารองค์กรในการแยกแยะข้อมูลที่เชื่อถือได้ออกจากข้อมูลรบกวน (noise) หรือข่าวปลอม และด้วยเหตุนี้ การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างรวดเร็วและแม่นยำจึงกลายเป็นหนทางที่ทุกองค์กรต้องเร่งค้นหา

เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายนี้ ในงานสัมมนา “AI-Powered Media Intelligence for Marketing & PR Professionals” ซึ่งบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา คุณป๊อบ ศรุต อุดมการ Commercial Director ของดาต้าเซ็ต ได้นำเสนอบทบาทสำคัญของ “ข้อมูลที่เชื่อถือได้” และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการทำงานเชิงกลยุทธ์ของการสื่อสารองค์กร

• ความน่าเชื่อถือคือเกราะป้องกันในยุค Data Overload

ในยุคที่ข่าวปลอมและการสร้างกระแสให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ง่าย การมีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และตรวจสอบได้คือหัวใจสำคัญ เพราะแม้ AI จะทรงพลัง แต่หากไม่มีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ คำตอบหรือผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะผิดพลาด

ด้วยเหตุนี้ การประมวลผลที่ครอบคลุม 360 องศา ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์ ข่าวออนไลน์ โซเชียลมีเดีย รวมถึงการอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเกราะป้องกันและเป็นรากฐานของกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ

• จากข้อมูลสู่การตัดสินใจ

การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลนี้ไม่อาจพึ่งพาแค่แรงงานคน แต่ต้องอาศัยพลังของ AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ

AI มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ AI Chat ทั่วไป มักมีปัญหาเรื่องการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ข้อมูลที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ไม่มีโครงสร้าง และผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอขึ้นอยู่กับ Prompt ที่ใช้

โซลูชัน AI ของดาต้าเซ็ตจึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดของ AI ทั่วไป เปลี่ยนข้อมูลทั่วไปให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่พร้อมนำไปสู่การตัดสินใจสำหรับงานด้านการตลาดและสื่อสารองค์กร โดยใช้ข้อมูลที่ได้จากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น ออกแบบโครงสร้างคำตอบและรายงานที่พร้อมใช้งานทันที ให้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ ทำซ้ำได้ และตรวจสอบได้ ทั้งยังออกแบบรายงานให้พร้อมนำเสนอผู้บริหารด้วย

เครื่องมือ AI ของดาต้าเซ็ต สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ 3 แกนหลัก ที่ช่วยให้ทีมสื่อสารสามารถทำงานเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

– สรุป (Summarize): ช่วยย่อข้อมูลจำนวนมากให้กระชับ รวดเร็ว และเป็น Executive Summary ที่พร้อมใช้งานทันที เพื่อให้ผู้บริหารเข้าถึงภาพรวมของสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

– วิเคราะห์ (Analyze): ช่วยวิเคราะห์และหาประเด็นที่น่าสนใจ รวมถึงความเชื่อมโยงที่ซ่อนอยู่ในข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment) หรือระดับการมีส่วนร่วม (Engagement)

– เสนอแนะ (Recommend): นำผลการวิเคราะห์มาใช้แนะนำขั้นตอนที่ควรดำเนินการต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้องค์กรนำไปใช้แก้ไขปัญหาหรือต่อยอดโอกาสได้อย่างทันท่วงที

• เพิ่มความเร็วและแม่นยำ

คุณป๊อบเปิดเผยว่า ข้อได้เปรียบสำคัญของการใช้ AI คือการเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำในการรับมือสถานการณ์วิกฤตและวัดผลแคมเปญ

ยกตัวอย่างเช่น รายงานวิเคราะห์แคมเปญ (Campaign Performance Report) ที่สรุปผลและวิเคราะห์ว่า ข้อความ (Message) เข้าถึงและถูกเข้าใจโดยผู้รับสารอย่างไร โดยทั่วไปแล้วอาจต้องใช้เวลานาน แต่เทคโนโลยี AI สามารถเข้ามาช่วยสร้างรายงานที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบได้ พร้อมนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว

หรือในกรณีของรายงานจับสัญญาณวิกฤต (Crisis Monitoring Report) นั้น AI สามารถให้ Situation Overview และสรุปเหตุการณ์สำคัญตามไทม์ไลน์รายชั่วโมง พร้อมทั้งมีข้อแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ด้วยการผสานข้อมูลทั้งปริมาณการพูดถึง (Mention) การวิเคราะห์ความรู้สึก ระดับการมีส่วนร่วม และที่สำคัญคือความคิดเห็นจริงของลูกค้า (Customer Voice) จากหลายช่องทาง

ทั้งนี้ ในโลกที่ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรที่ปรับตัวและใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้เป็นหัวใจในการทำงาน พร้อมเครื่องมือ AI ที่ช่วยลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำ จะเป็นผู้ที่สามารถนำการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ไปสู่ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้และวัดผลได้จริง

คุณป๊อบปิดท้ายว่า โซลูชันของดาต้าเซ็ตถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องได้ทันที ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกด้าน AI เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกระดับ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับผู้บริหาร สามารถนำเวลาไปเน้นที่งานกลยุทธ์ได้มากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ต.ค. 68)