ปชป.เปิดเวที”ประเทศไทยต้องการอะไรจากพรรคการเมือง” ดึง 3 ผู้นำวงการเศรษฐกิจสะท้อนปัญหาใหญ่

นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมจัดงานสำคัญใหญ่เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “ประเทศไทยต้องการอะไรจากพรรคการเมือง” โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์

งานดังกล่าวถือเป็นเวทีเชิงนโยบายที่เปิดโอกาสให้คณะกรรมการบริหารพรรคและทีมนโยบายของพรรคได้เข้าถึงมุมมองและความคาดหวังของประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้นำทางความคิดในแวดวงเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ที่พรรคฯ ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน มาร่วมถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนมุมมองถึงสถานะและอนาคตประเทศไทยอย่างตรงไปตรงมา ประกอบด้วย

  • ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีความโดดเด่นในฐานะนักคิดและผู้นำเสนอแนวคิดการปฏิรูปการเมืองเชิงหลักการ ที่ยึดมั่นใน 3 เสาหลัก คือ นโยบายที่ดี (Good Policy) การเมืองที่ดี (Good Politics) และคนที่ดี (Good People) เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการเมืองไทย
  • นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เป็นนักการเงินและนักคิดนอกกรอบ ที่สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส และในส่วนของภาคธุรกิจเชิงโครงสร้าง
  • นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและซีอีโอกลุ่ม บมจ. คอร์ปอเรชั่น ]WHA] ที่เป็นผู้นำด้านนิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์แห่งอนาคต เปลี่ยนธุรกิจสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะการพัฒนาระบบ นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (SMART Eco Industrial Estate) และบุกเบิก WHA Mobility (Built-to-Suit EV Ecosystem) เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตระดับโลกเข้าสู่ประเทศไทย

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า งานดังกล่าวเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ ที่ต้องการให้สังคมได้เห็นถึงภารกิจที่สำคัญที่สุดของพรรคการเมือง คือการมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นหลักใหญ่ ซึ่งปัจจุบันพบว่ากลับมีพรรคการเมืองน้อยรายที่กล่าวถึงภาพใหญ่และมองเห็นสถานะที่แท้จริงของประเทศอย่างชัดเจน การเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 ท่านจึงเป็นการสะท้อนให้กรรมการบริหารพรรคเห็นว่าทิศทางของประเทศไทยควรเดินไปข้างหน้าอย่างไร ทั้งยังต้องการให้สังคมเห็นว่านักการเมืองก็สามารถเป็นผู้รับฟัง ที่จะเปลี่ยนเวทีการเมืองจากสนามของนักพูด ให้เวทีของการทำความเข้าใจร่วมและเป็นโอกาสให้นักการเมืองได้รับฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ผ่านการสะท้อนความคาดหวังและบทบาทของพรรคการเมืองจากผู้นำทางความคิดในสังคม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ต.ค. 68)