
การชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 36 แล้ว ณ เวลา 00.01 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ (5 พ.ย.) โดยทำลายสถิติเดิมที่ 35 วันในช่วงปี 2561-2562 และขึ้นแท่นการชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเที่ยงวานนี้ (4 พ.ย.) วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้พยายามผลักดันร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณระยะสั้นเป็นครั้งที่ 14 ที่เสนอโดยพรรครีพับลิกันและผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่การลงคะแนนตามขั้นตอนยังขาดเสียงสนับสนุนถึง 60 เสียงที่จำเป็นสำหรับการอนุมัติ ขณะที่ผู้นำของทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังคงกล่าวโทษกันไปมา โดยไม่มีทีท่าว่าจะเจรจาหรือทำการประนีประนอมใด ๆ
ฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แกนนำพรรคเดโมแครตกล่าวในการแถลงข่าวว่า “พรรครีพับลิกันปฏิเสธที่จะขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Affordable Care Act) ซึ่งจะส่งผลให้ชาวอเมริกันนับสิบล้านคนต้องเผชิญกับเบี้ยประกัน ค่าร่วมจ่าย และค่าหักลดหย่อนที่สูงขึ้นอย่างมาก”
ขณะเดียวกัน ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแกนนำรีพับลิกันในสภากล่าวในการแถลงข่าวโดยอ้างถึงชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา อีกครั้งว่า “การชัตดาวน์ของชูเมอร์ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพหรือนโยบายใด ๆ” และชี้ว่า “ตอนนี้พรรคเดโมแครตกำลังกลัวแรงตอบโต้ทางการเมืองจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายในพรรคของตัวเองมากกว่าผลกระทบจากการที่รัฐบาลยังคงปิดหน่วยงานต่อไปอีกหลายสัปดาห์”
ทั้งนี้ ผลกระทบจากการชัตดาวน์ที่ทำลายสถิติยังคงแผ่ขยายออกไปในขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงปะทะคารมกันอย่างไม่จบสิ้น สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คน รวมถึงความปลอดภัยทางการบิน และโครงการช่วยเหลือด้านอาหาร
ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ เตือนเมื่อวันอังคารว่า การชัตดาวน์ของรัฐบาลที่ยังคงยืดเยื้อได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเดินทางทางอากาศ และอาจก่อให้เกิดการยกเลิกเที่ยวบินในวงกว้าง หรือแม้กระทั่งการปิดน่านฟ้า หากเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศไม่ได้รับเงินเดือนงวดที่สองเต็มจำนวนในสัปดาห์หน้า
ไฟลท์อะแวร์ (FlightAware) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า มีเที่ยวบินหลายพันเที่ยวทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาความล่าช้าในทุก ๆ วัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 68)





