
AOT บวก 2.40% มาที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 833.88 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.09 น. จากราคาเปิด 42.00 บาท ราคาสูงสุด 42.75 บาท ราคาต่ำสุด 41.75 บาท
บล.กรุงศรี มองหุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] เป็น Upside หากคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) อนุมัติปรับขึ้นค่า PSC ตามอัตราข้างต้น (Inter +270 บาท /Domestic +200 บาท) สูงกว่ากรณี Best case เดิมที่เราประเมิน (Inter +200 บาท /Domestic +200 บาท) ขณะที่ Timeline การเริ่มเก็บค่า PSC ในอัตราใหม่ยังเป็นไปตามคาดการณ์เดิมที่เดือน เม.ย.69
เราปรับ Upside กรณี Best Case ใหม่ เป็น Inter +270 บาท /Domestic +200 บาทซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมายกรณี Best Case เพิ่มเป็น 45.75 บาท (เดิม 43.50 บาท) ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานการเจรจากับ King Power ได้ Minimum Guarantee (หรือ MG) Duty Free สุวรรณภูมิ ที่ 8 พันลบ./ปี และรวมโอกาสจาก บ.ย่อยชนะประมูลให้บริการภาคพื้นและคลังสินค้ารายที่ 3 ที่สุวรรณภูมิแล้ว
ขณะที่เรายังมอง Upside การขึ้นค่า PSC ที่เป็นไปได้ คือ Inter +200 บาท /Domestic +50 บาท (ซึ่งมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 40 บาท) เพื่อให้การปรับขึ้นค่า PSC ค่อยเป็นค่อยไป มีผลกระทบต่อ stakeholders อื่นๆ (สายการบิน ผู้โดยสารและอุตฯ ท่องเที่ยว) ไม่มาก นอกจากนี้ ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนอุตฯ ท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยววภายในประเทศอีกด้วย
เราคงคำแนะนำ Neutral จากราคาเป้าหมายมี Upside กรณี Best case ที่ 45.75 บาท (vs กรณี Base case ที่ 30 บาท) ซึ่งคาดว่าการปรับขึ้นค่า PSC จะมีความชัดเจนภายในเดือน ธ.ค.68
ทั้งนี้ หุ้น AOT ยังมีความเสี่ยงจากการเจรจากับ King Power (KP) คาดได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ย.68 หากได้ MG Duty Free สุวรรณภูมิต่ำกว่า 8 พันลบ./ปี จะทำให้ราคาเป้าหมายกรณี Best case มี Downside (ทุกๆ 1 พันลบ. ที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าคาด จะส่งผลต่อราคาเป้าหมาย 1 บาท)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ย. 68)





