ONEE อวดงบ Q3/68 รายได้-กำไรโตแกร่ง กลุ่มธุรกิจ Idol Marketing เติบโตโดดเด่น

บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ [ONEE] เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้รวม 2,007.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.83% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12.17% จากไตรมาสก่อน กำไรสุทธิ 203.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.34% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 135.30% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลกับตัวเลขผลประกอบการ ในแต่ละกลุ่มธุรกิจต่างๆ มีดังต่อไปนี้

กลุ่มธุรกิจ Idol Marketing เติบโตโดดเด่น ทำรายได้ทะยาน 996.62 ล้านบาท โดยเติบโต 66.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23.68% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากการบริหารจัดการศิลปินและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง สะท้อนแนวโน้มของอุตสาหกรรมฯ ที่เติบโตจากเทรนด์ Influencer Marketing โดยรายได้กลุ่มนี้เติบโตในทุกสายธุรกิจย่อย และสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นกว่าในอดีต

กลุ่มบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครอบคลุมด้วยศิลปินในสังกัดทุกระดับ มีทั้งศิลปินรูปแบบ Boy-Love , Girl-Love , Boy- Girl และศิลปินหน้าใหม่ รวมทั้งยังมีศิลปินในรูปแบบ Mascot Idol ชื่อว่า “POLCASAN” และยังมีผองเพื่อน Mascot อีกหลายตัว ที่รับงานพรีเซนเตอร์ต่างๆ เสมือนเป็นศิลปินคนหนึ่งของบริษัท ถือเป็น Trend ใหม่ที่น่าติดตาม และสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับ Concert & Event ในไตรมาส 3/68 มีการจัดงานคอนเสิร์ต และกิจกรรมแฟนมีต รวมจำนวนทั้งสิ้น 84 งาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นปัจจัยหนึ่งในการผลักดันวัฒนธรรมไทย (Soft Power) สู่เวทีสากล และสำหรับ Merchandising สามารถต่อยอดรายได้จากการขายสินค้าที่ระลึกของศิลปิน ที่มีหลากหลายรูปแบบ จนไปถึงลักษณะ Limited Edition ที่มีจำนวนจำกัด เพื่อให้เกิดความต้องการและมีคุณค่าในการสะสม ผ่านการจำหน่ายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ โดยมีทั้งสินค้าที่ระลึกจากศิลปินรูปแบบปกติ และมีสินค้าจากศิลปินในรูปแบบ Mascot เช่นเดียวกัน และเป็นกลุ่มสินค้าที่สร้างอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง

กลุ่มธุรกิจ Content Marketing ในไตรมาส 3/68 นี้ ทำรายได้อยู่ที่ 959.82 ล้านบาท ลดลง 225.25 ล้านบาท หรือ 19.01% เมื่อเทียบจากปีก่อนจากการปรับตัวลงทุกหมวดย่อย แต่ยังคงสามารถเติบโตขึ้น 1.74 % จากไตรมาสก่อน การลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนสะท้อนทิศทางภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ ที่อยู่ในภาวะหดตัว สอดคล้องกับแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีการรับชมโทรทัศน์ลดลง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทได้ปรับตัวเชิงกลยุทธ์ต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมารับชมคอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ Online Content ซึ่งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากความสำเร็จของช่อง Youtube “One Playground” ที่มียอดรับชมและติดตามในระดับสูง กลุ่มบริษัทยังคงมุ่นเน้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ชมบน OTT Platform ต่างๆ พร้อมทั้งยังมีการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังตลาดทั่วโลก ซึ่งกลยุทธ์นี้ไม่เพียงสร้างรายได้ แต่ยังช่วยสร้างการรับรู้ในระดับสากลให้กับศิลปินและนักแสดงในสังกัด อันเป็นการส่งเสริมและสร้างกระแสต่อเนื่องไปยังธุรกิจ Idol Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้การลดลงในรายได้จากการขายลิขสิทธ์ ยังเกิดจากการปรับกลยุทธ์เพื่อเน้นการพัฒนา Application “oneD” ซึ่งเป็น OTT Platform ของบริษัทให้มี Content ที่ Exclusive มากขึ้น เพื่อดึงดูดผู้ชมให้มารับชม Content ต่างๆ ของกลุ่มบริษัทผ่านช่องทางนี้มากขึ้น อันถือว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของกลุ่มบริษัท

กลุ่มธุรกิจ Production Business ซึ่งประกอบด้วย Production Services และ Studio Rental สำหรับรับจ้างผลิต โดยกลุ่มบริษัทมีการผลิตคอนเทนต์ต่างๆ ชั้นนำมากมาย และมุ่งเน้นในการทำ Original Content เป็นของตัวเองมากขึ้น ซึ่งในไตรมาสนี้ ทำรายได้อยู่ที่ 35.42 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเพียง 0.78% จากปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 15.42% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

กำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 37.58% เมื่อเทียบกับรายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นผลมาจากแผนการควบคุมต้นทุนและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ที่ได้แจ้งใน Opportunity Day ช่วงไตรมาส 2/68 แล้วสามารถดำเนินการได้จริง ดังนี้

1) บริหารต้นทุนการผลิตละครอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ยังคงคุณภาพใกล้เคียงเดิม และกำหนด กลยุทธ์ช่วงระยะเวลาการ ON-AIR ให้ได้ผลตอบแทนในระดับสูง

2) บริหารจัดการคิวศิลปิน ทำให้จัด Concert / Fan meet ได้มากขึ้น และเกิด Economy of Scale ในต้นทุนบางประเภท

3) เริ่มโมเดลหารายได้งาน Presenter รวมทั้ง Event จาก Mascot Idol (POLCASAN และเพื่อนๆ จาก GMMTV) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าการใช้ศิลปินรูปแบบปกติ

4) ควบคุมต้นทุนการจัด Event และ Concert อย่างเหมาะสม โดยที่ยังคงให้ประสบการณ์กับผู้ร่วมงานได้ดีในระดับเดิม

5) เพิ่มรายได้จากธุรกิจ Merchandising ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ สามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับสูง โดยการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ Mascot ตัวอื่นๆ เพิ่มเติมจาก POLCASAN เช่น SMYLE, NEONA, BABII, KINGMAN

ผลสรุปในไตรมาส 3/68 ONEE มีกำไรสุทธิ 203.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.34% YoY เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 135.30% QoQ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลมาจาก การสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของกลุ่มธุรกิจ Idol Marketing ประกอบกับบริหารจัดการอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจ Idol Marketing ได้ดีขึ้น การนำเสนอสินค้า Merchandising ที่ตรงใจแฟนคลับและมีอัตรากำไรสูง พร้อมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนของศิลปินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นยังมีสาเหตุมาจาก การควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด ทำให้ SG&A ลดลงในแง่ของอัตราส่วนต่อรายได้รวม

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ท่ามกลางปัจจัยที่ท้าทาย ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่การดำเนินงานของกลุ่ม บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ [ONEE] กลับสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารงานที่โดดเด่นในทุกมิติ ซึ่งเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่น ความเชี่ยวชาญ การวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และความพร้อมปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายรอบด้าน ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง นับเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จ และความน่าเชื่อถือของกลุ่ม “เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์” ที่มุ่งมั่นพัฒนาการบริหารจัดการธุรกิจให้มั่นคงต่อไป

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ย. 68)