
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พ.ย.68 อยู่ที่ระดับ 74.35 จุด ปรับลดลง 2.35 จุด หรือคิดเป็น 3.06% จาก 76.70 จุด ในเดือน ต.ค.68 ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการเจรจาสงครามการค้ามีความคืบหน้า, ภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลาย, เงินทุนไหลเข้าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ขณะที่คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน พ.ย.68 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 324 ราย ในจำนวนนี้มี 125 ราย หรือเทียบเป็น 39% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 113 ราย หรือเทียบเป็น 35% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ และจำนวน 86 ราย หรือเทียบเป็น 26% คาดว่าจะซื้อทองคำ
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 12 ราย ในจำนวนนี้มี 5 ราย หรือเทียบเป็น 42% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน พ.ย.68 จะลดลง และจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 33% คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 25% คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ต.ค.68
สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน พ.ย.68 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 4,013-4,310 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 60,400-65,600 บาท/น้ำหนัก 1 บาททองคำ และค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 32.02-32.89 บาท/ดอลลาร์
โดยการลงทุนทองคำในเดือน พ.ย.68 ตลาดทองคำยังคงเผชิญความผันผวนสูง หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงในช่วงก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแรงขายทำกำไรและการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นชั่วคราว อย่างไรก็ตามสัญญาณทางเทคนิคเริ่มสะท้อนถึงความพยายามของราคาที่จะปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้น แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่สำคัญได้อย่างมั่นคง แนะนำให้นักลงทุนทยอยแบ่งขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง ในทางกลับกันหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวต้านได้ จะเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มระยะกลาง สะท้อนถึงแรงเข้าซื้อที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวใกล้แนวรับ โดยควรบริหารพอร์ตอย่างระมัดระวัง และติดตามปัจจัยเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 68)





