
รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าราว 21.3 ล้านล้านเยน (1.35 แสนล้านดอลลาร์) แล้วในวันนี้ (21 พ.ย.) เพื่อบรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้น หลังนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ให้คำมั่นว่าจะพยุงเศรษฐกิจญี่ปุ่นด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายทางการคลังแบบเชิงรุก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรกของทาคาอิจิ คาดว่าจะมีมูลค่าแตะ 42.8 ล้านล้านเยน หากรวมกับค่าใช้จ่ายของรัฐบาลท้องถิ่นและภาคเอกชน ซึ่งสูงกว่ามาตรการในปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า 39 ล้านล้านเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการต่าง ๆ ในแพ็กเกจนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับสี่ของโลก ท่ามกลางความกังวลว่าภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอาจกระทบต่อทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือน
นอกจากมาตรการบรรเทาเงินเฟ้อระยะสั้น รัฐบาลยังวางแผนกระตุ้นการลงทุนในภาคส่วน เช่น การต่อเรือ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งมีความสำคัญต่อการจัดการวิกฤตและความมั่นคงของชาติ โดยทาคาอิจิหวังว่าการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์เหล่านี้จะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลวางแผนจัดทำงบประมาณเสริมมูลค่า 17.7 ล้านล้านเยนสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2569 โดยตั้งเป้าลงนามบังคับใช้ก่อนปิดประชุมรัฐสภาในเดือนธ.ค.นี้
งบประมาณเสริมดังกล่าวสะท้อนถึงนโยบายการใช้จ่ายทางการคลังแบบเชิงรุกของรัฐบาลทาคาอิจิ โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าวงเงิน 13.9 ล้านล้านเยนของปีงบประมาณก่อนในสมัยนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา งบประมาณเสริมของญี่ปุ่นสูงกว่า 10 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานปกติก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่อยู่ในระดับเพียงไม่กี่ล้านล้านเยน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 68)




