
ยอ ฮัน-กู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ (24 พ.ย.) ว่า เกาหลีใต้เล็งเห็นโอกาสในการร่วมมือกับไต้หวันเพื่อรับมือกับนโยบายกำแพงภาษีชิปของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
รมว.การค้าเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุว่า “ในขณะที่ไต้หวันกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา เรามองเห็นช่องทางที่เกาหลีใต้และไต้หวันจะร่วมมือกันเพื่อให้ได้รับเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ที่สุด”
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีใต้เพิ่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ในเดือนนี้ โดยเกาหลีใต้ตกลงที่จะลงทุนเม็ดเงินมหาศาลในภาคอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการลดหย่อนภาษีนำเข้า ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวันยังคงดำเนินอยู่
ประเด็นสำคัญของข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้คือ สหรัฐฯ กำหนดว่าอัตราภาษีเซมิคอนดักเตอร์ที่เรียกเก็บจากเกาหลีใต้ จะไม่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับเงื่อนไขภาษีที่สหรัฐฯ อาจเสนอให้กับประเทศอื่นในอนาคต หากประเทศนั้นมีมูลค่าการค้าเซมิคอนดักเตอร์มากพอ ๆ กับเกาหลีใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ระบุว่า ข้อความดังกล่าวหมายถึงคู่แข่งสำคัญอย่างไต้หวันโดยตรง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐฯ อาจยังไม่เริ่มเก็บภาษีเซมิคอนดักเตอร์ตามที่เคยระบุไว้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งอาจทำให้หนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจหลักของทรัมป์ต้องล่าช้าออกไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะยืนยันว่ามีการหารือประเด็นนี้กับไต้หวันไปแล้วหรือไม่
ข้อมูลจากกรมศุลกากรระบุว่า ยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 51.2% แตะที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ท่ามกลางความต้องการชิป AI ที่เพิ่มสูงขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 68)





