CBG วิ่งขึ้น 3.39% โบรกปรับเป้ารับแนวโน้มกำไรฟื้นหลังกัมพูชาพ้นจุดต่ำสุด upside กลยุทธ์หวนบุกตลาดจีน

เมื่อเวลา 10.08 น. CBG บวก 3.39% เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มาที่ 45.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 72.29 ล้านบาท จากราคาเปิด 45.00 บาท ราคาสูงสุด 45.75 บาท และราคาต่ำสุด 44.75 บาท

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ปรับเพิ่มคำแนะนำ บมจ.คาราบาวกรุ๊ป [CBG] ขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ขาย” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 51.00 บาท (PE สูงขึ้นที่ 17x หรือ -1.5SD ของค่าเฉลี่ย) จากเดิม 47.00 บาท (PE ที่ 14.5x) แม้ว่าจะปรับลดกำไรลงก็ตาม แต่เราเห็น risk/reward ระยะสั้นเชิงบวกจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ในอนาคต แม้ยังมีความตึงเครียดระหว่างไทยกัมพูชาซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระมัดระวัง

1.CBG วางแผนเปิดตัวสินค้า SKU ใหม่ราคา 12 บาทช่วงกลางปี 69 ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดสินค้าแย่งยอดขายกันเอง (cannibalization) เชิงบวกกับ SKU ราคา 10 บาทเดิม โดยมุ่งที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในประเทศมากขึ้น เป็นนัยว่าจะสร้างแรงกดดันต่อ Osotspa (OSP.BK/OSP TB) (แนะนำ ถือ, ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท)

2. รายได้จากเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไตรมาส 4/68 คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ +5% QoQ (หลังจาก +19% QoQ ในไตรมาส 3/68) โดยส่วนแบ่งตลาดเชิงปริมาณจะขยับขึ้นเป็น 28-29% ภายในสิ้นปีนี้ (จาก 27.6% ใน ต.ค.68) ส่วนรายได้จากยอดขายสุราข้าวหอม (rice spirit) ก็คาดว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน แต่กลุ่มเบียร์ยังคงอ่อนตัว

3. การดำเนินงานในกัมพูชาดูเหมือนจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหลังจากคำสั่งซื้อหายไปช่วงปลาย ส.ค.-ต.ค.68 โดย capacity ที่เหลืออยู่มีแนวโน้มจะเน้นที่การผลิตแบบ OEM ซึ่งน่าจะช่วยดันให้เติบโต QoQ ท่ามกลางความไม่แน่นอน (ทั้งนี้ รายได้จากกัมพูชาไตรมาส 3/68 ต่ำเพียง 230 ล้านบาท หรือ -70% QoQ และ -70% YoY)

4. แนวโน้มปี 69 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้จะเติบโตราว 20% YoY หวังครองส่วนแบ่งตลาด 32% เพื่อแซงหน้า OSP แรงหนุนจากการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าผ่านร้านค้าดั้งเดิม (Traditional Trade) ทั้งนี้ คาดรายได้ทั้งเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศและธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกจะโตได้ราว 25% YoY ซึ่งจะช่วยชดเชยยอดขายกลุ่ม CLMV ที่ยังอ่อนแอ

5. ปัจจัยบวกจากเมียนมาและจีน อัตราการใช้กำลังการผลิต (utilization) ของโรงงานในเมียนมาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/68 (กดดัน OSP มากขึ้น) ด้วยการหาแหล่งวัตถุดิบราบรื่นขึ้นเทียบกับช่วงไตรมาส 3/68 ส่วนกลยุทธ์การเติบโตในจีนคาดว่าจะชัดเจนขึ้นในไตรมาส 1/69 ร่วมกับพาร์ทเนอร์รายใหม่ที่น่าสนใจกว่าเมื่อเทียบกับเบียร์ Tsingtao ซึ่งถือเป็น upside ต่อประมาณการของเราและของตลาด

เรามองว่ากำไรของ CBG ในไตรมาส 3/68 ที่อ่อนแอน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้และคาดกำไรหลัก ไตรมาส 4/68 จะฟื้นตัวแรง QoQ (แต่ลดลง YoY) ที่กรอบ 630–650 ล้านบาท มองไปปี 69 กำไร H1 จะค่อย ๆ ฟื้นตัว (ลดลง YoY จากฐาน H1/68 สูง) จากนั้นกำไร H2/69 จะแข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ดี เราปรับลดกำไรหลักปี 68 ลง 3% บนสมมติฐานที่ SG&A สูงขึ้น กับปรับลดกำไรปี 69-70 ลง 8-9% เพื่อสะท้อน SG&A ที่สูงขึ้นและยอดขายในกัมพูชาที่ลดลง (คาดลดลง 75% YoY เหลือราว 200 ล้านบาทต่อไตรมาส)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 68)