พรรคประชาชน (ปชน.) จัดกิจกรรม “ชักธงรบ เตรียมความพร้อม กรุงเทพมหานคร ต้องชนะ” เพื่อประกาศความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยตั้งเป้าหมายใหญ่คือการคว้าชัยชนะในพื้นที่ กทม. ให้ได้ครบทั้ง 33 เขต และขยายผลสู่เป้าหมายระดับประเทศที่ 250 ที่นั่ง เพื่อผลักดันการจัดตั้ง “รัฐบาลประชาชน” ให้สำเร็จ
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ระบุว่า พรรคประชาชนยังคงแข็งแกร่งแม้ผลโพลความนิยมจะลดลงบ้าง แต่สำหรับตนเองที่รู้จักพรรคมานานยังคงมั่นใจจะไปได้ไกลกว่าเดิมและแข็งแกร่งกว่าเดิม ด้วยตัวเลขต่างที่เป็นเครื่องชี้วัดทั้งจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น 30% เงินบริจาค 96 ล้านบาท จากคนหลักแสนคน ความนิยมที่ขยับจาก 10% เป็น 20-30%
“ดังนั้น พูดกับความเป็นไปได้ว่าจะชนะการเลือกตั้ง ไม่ใช่สิ่งที่ไปเป็นไปไม่ได้ หากดูจากตัวเลขเหล่านี้เป็นไปได้ แต่ความเป็นไปได้จะทำสำเร็จหรือไม่ต้องเกิดจากพวกเราทุกคนที่มาช่วย การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่แกนนำไม่กี่คน แต่การเปลี่ยนแปลงและชัยชนะต้องมาจากพวกเราทุกคนและตนมั่นใจว่าสิ่งที่ผมพูดไปแล้วตัวเลขสมาชิกมากกว่าแสนคน ตัวเลขผู้บริจาคมากกว่าแสนคนสิ่งเหล่านี้เป็นพลังสำคัญที่ทำให้ 250 เป็นจริงได้อย่างแน่นอน”นายศรายุทธิ์ กล่าว
สำหรับคะแนนนิยมที่ลดลงนั้น พรรคมองว่ากลุ่มที่หายไปเป็นกลุ่มที่ “ยังไม่ตัดสินใจ” ซึ่งพรรคมีเวลาในช่วงโค้งสุดท้ายในการทำความเข้าใจและดึงคะแนนกลับคืนมา นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค จะได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วง 7 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง เช่นเดียวกับปรากฏการณ์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในการเลือกตั้งครั้งก่อน
ทางด้านนโยบายและจุดยืนทางการเมือง นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสในรอบ 15 ปี ที่ประชาชนจะได้เป็นผู้กำหนดรัฐบาลอย่างแท้จริง เนื่องจากจะไม่มีอุปสรรคจากอำนาจ สว. เหมือนที่ผ่านมา ส่วนประเด็นเรื่อง มาตรา 112 พรรคมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะไม่นำมาพูดถึงในการหาเสียง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางข้อกฎหมายจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป้าหมายสูงสุดของพรรคประชาชนคือการชนะให้เด็ดขาดเพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ป้องกันไม่ให้พรรคอันดับรองจับขั้วกันข้ามขั้วเจตนารมณ์ของประชาชนเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีตสส.บางขุนเทียน และว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม.ฝั่งธนบุรี พรรคประชาชน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จ มีความใฝ่ฝันว่าจะเป็นทั้งอันดับ 1 ซึ่งทำได้แล้ว นำสส.เข้าสู่สภา 151 ที่นั่ง แต่มีอุปสรรคมาฉุดรั้งให้พรรคอันดับ 1 ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ครั้งนี้จึงมีเป้าหมายใหม่จะจัดตั้งรัฐบาลประชาชนให้ได้ เพราะฉะนั้นก้าวแรกที่เริ่มจากตรงนี้ขอชวนประชาชนมาร่วมกันทำภารกิจให้สำเร็จ เพราะการการเลือกตั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงอนาคตที่ลงทุนน้อยที่สุด ขอให้ออกมาเป็นหัวคะแนนธรรมชาติอีกครั้ง
สำหรับสนามกทม. ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาชนได้สส. 32 เขต และรอบนี้เราจะได้เพิ่มอีก 1 เขต เป็น 33 เขต คาดว่าพื้นที่ กทม.ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่ระบุว่าเราจะกวาดที่นั่งทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ หลายสื่อบอกว่าเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเราก็ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นจริงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าชาวกทม.จะยังสนับสนุน ผู้สมัครสส.และนโยบายของพรรค เพราะเรามีทีมบริหารและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน และรองนายกรัฐมนตรีที่ได้เปิดตัวไปแล้ว ที่จะเพิ่ม การตัดสินใจให้กับประชาชนได้มากพอสมควร
นายณัฐชา ยืนยันว่าในฐานะที่ดูพื้นที่ของกทม. เห็นตัวผู้สมัครครบทั้ง 33 คนแล้ว เรามั่นใจว่าผู้สมัครของเรามีคุณสมบัติครบ เพียบพร้อมที่จะทำให้คนกรุงเทพตัดสินใจ และมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถชนะได้ทั้ง 33 เขต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 68)
