
OSP พุ่ง 5.26% เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มาที่ 16.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 76.00 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น.จากราคาเปิด 15.90 บาท ราคาสูงสุด 16.10 บาท และราคาต่ำสุด 15.80 บาท
บล.ดาโอ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” บมจ.โอสถสภา [OSP] และคงราคาเป้าหมายที่ 18.00 บาท อิง PER 16x เรามีมุมมองเป็นบวกจาก Opportunity Day โดย outlook ใกล้เคียงคาด มีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. บริษัทคาดรายได้รวมขยายตัว 2%-5% YoY (จาก domestic beverage 0-3% YoY, personal care & international beverage ขยายตัว double digit), อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัว YoY (ปี 67 ที่ 37.3%) จาก efficiency ที่ดีขึ้น และต้นทุน raw & packaging materials ลดลง โดยล็อคราคาจนเกือบปลายปี
2.สำหรับ ไตรมาส 2/68 ผู้บริหารคาดรายได้รวมโต QoQ จากรายได้ domestic beverage และ personal care ขยายตัว ด้านรายได้ต่างประเทศ ลดลง QoQ, GPM ยังอยู่ในระดับสูง และ 3. มีแผนจำหน่าย Babi Mild x Butterbear ในตลาดจีนช่วง ไตรมาส3/68 ขายทั้ง MT และ Online ทั้งนี้ เราคาดกำไรปกติ ไตรมาส 2/68 ขยายตัว YoY จาก GPM ขยายตัว ด้านกำไรที่ขยาย QoQ จากรายได้ domestic beverage และ personal care ขยายตัว QoQ เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ที่ 3,426 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 109% YoY) และกำไรปกติที่ 3,131 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3% YoY) ราคาหุ้นทรงตัวเมื่อเทียบกับ SET ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน OSP เทรดที่ core PER 14.6x เรามองว่า valuation น่าสนใจ มี upside จาก market share และ GPM ที่ดีกว่าคาด
ขณะที่บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ในเดือนเม.ย.68 อยู่ที่ 45% เทียบกับ 44.8% ในไตรมาส 1/68 และ 44.5% ในเดือนธ.ค.67 (ส่วนใหญ่เป็นผลจาก M-150 ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 31% ในเดือนธ.ค.67 เป็น 31.5% ในเดือนเม.ย.68) ผู้บริหารระบุว่า M-150 ฝาทอง ยังคงเติบโตได้ดีในช่องทาง modern trade แม้จะมีการแย่งตลาดจากช่องทางค้าปลีกดั้งเดิมบ้าง แต่ก็เป็นไปตามที่คาดไว้
ระดับสินค้าคงคลังเครื่องดื่มชูกำลังของช่องทางค้าส่งลดเป็นเกิน 1 เดือนเล็กน้อย (จากเดิม 2-3 เดือน) ส่งสัญญาณว่ายอดขายในระยะต่อไปจะดีขึ้นและสอดคล้องกับส่วนแบ่งการตลาด คาดยอดขายในประเทศ ไตรมาส2/68 จะเพิ่ม QoQ และทรงตัว YoY ส่วน GPM คาดใกล้เคียงกับ ไตรมาส1/68 และยังควบคุมค่าใช้จ่าย SGA ได้ดี ผู้บริหารเชื่อว่าจะรักษา GPM ไว้เกือบ 40% ได้ตลอดปีนี้ แม้สัดส่วนรายได้ธุรกิจต่างประเทศจะลดลง ซึ่งเป็นผลจากประสิทธิภาพดำเนินงานสูงขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์ลดลง
ยังมุ่งมั่นขยายสินค้ากลุ่มพรีเมียม โดยจะเปิดตัว Lipo และ M-150 Sparkling รสชาติใหม่ในไตรมาส 3/68 และเปิดตัว Lipo Plus ราคา 15 บาทในปีนี้ คาดยอดขาย Personal care จะโตเป็นเลขสองหลักในปี 68 จากการขยายพอร์ตสินค้า ขณะที่แบรนด์ Babi Mild มีความแข็งแรง นอกจากนั้นผู้บริหารยังมองเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ (CLMV และประเทศอื่นๆ) โดยคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 40% และบริษัทแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว สำหรับสินค้ากลุ่ม Butterbear Babi Mild (ทั้งช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่และออนไลน์)
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 68 เติบโต 2-5% (พอร์ตเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศโต 0-3%, ธุรกิจเครื่องดื่มต่างประเทศและ personal care เติบโต >10%) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในปี 68 คาดว่าจะขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการปรับพอร์ตสินค้าให้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบกับบรรจุภัณฑ์ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A คาดว่าจะทรงตัว
ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิม ถือ ให้ราคาเป้าหมาย 19 บาท (DCF) เราปรับประมาณการกำไรหลักปี 68/69 เพิ่มขึ้น 6% เพื่อสะท้อนถึง GPM ที่สูงขึ้นเป็น 38.8% (เดิม 37.5%) แต่ปรับลดยอดขายปีนี้เหลือเติบโต 1.5% (โดยลดการเติบโตของยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศเป็น 0% (เดิม 3%)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
Tags: OSP, หุ้นไทย, โอสถสภา