ดีอีเผย 2 พ.ร.ก.เกี่ยวข้องอาชญากรรมออนไลน์เข้าสภา 28-29 พ.ค.เร่งปราบปรามเยียวยาผู้เสียหาย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 4/2568 กล่าวว่า รัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ประชุม ครม.ได้ อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมฯ พ.ศ. 2566 เพื่อกำหนดให้คดีความผิดทางอาญาซึ่งมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 21 (1) เป็นคดีพิเศษเพิ่มเติมจำนวน 3 คดีความผิด ดังนี้

  1. คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

  2. คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

  3. คดีความผิดกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า 2 ใน 3 ของคดีพิเศษที่กำหนดเพิ่มเติมนั้น เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ และมีความสอดคล้องกับ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

“ในวันที่ 28 – 29 พฤษภาคม 2568 พ.ร.ก.ฯ ทั้ง 2 ฉบับจะเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อพิจารณา เห็นชอบ โดยในขณะนี้ คณะกรรมการฯ ได้เร่งรัดการดำเนินการกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.กทั้ง 2 ฉบับ ในการดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมออนไลน์ อย่างมีประสิทธิภาพ และการบังคับใช้ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ บัญชีม้าและซิมม้า และเร่งการอายัดบัญชีธนาคาร ระงับบัญชีม้า ตัดเส้นทางการเงิน การปิดกั้นโซเชียลมีเดีย หลอกลวงผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งการเยียวยาผู้เสียหาย” รองนายกประเสริฐ กล่าว

สำหรับในการประชุมได้มีการพิจารณาผลดำเนินการและมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 7 เรื่องสำคัญ ที่มีผลการดำเนินงาน ถึง 30 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยสรุปได้ดังนี้

1.การปราบปรามจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ เดือน เมษายน 2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

  • การจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทุกประเภท ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 66 – เมษายน 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 59,279 ราย โดยในเดือน เมษายน 2568 มีการจับกุมจำนวน 1,965 ราย

  • การจับกุมคดีพนันออนไลน์ คดีพนันออนไลน์ ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 66 – เมษายน 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 25,519 ราย โดยในเดือนเมษายน 2568 มีการจับกุมจำนวน 823 ราย

  • ผลการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้า และความผิดตาม พรก.ฯ ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 66 – เมษายน 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 6,386 ราย โดยในเดือนเมษายน 2568 มีการจับกุมจำนวน 277 ราย

2. การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ (ปีงบประมาณ 68 ตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 – 30 เม.ย. 68)

  • การปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ จำนวน 52,106 (URLs) หลอกลวงออนไลน์ จำนวน 1,167 (URLs) และอื่นๆ 39,657 (URLs) รวมทั้งสิ้น 92,930 (URLs)

  • การประสานแพลตฟอร์มเพื่อขอปิดกั้นเกี่ยวกับหลอกลวงออนไลน์ ที่มีคำสั่งศาล จำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 10,148 (URLs) ที่ไม่มีคำสั่งศาล มีจำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 29,526 (URLs) (เฉพาะในส่วนของกระทรวงดีอี)

3. การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน

ผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 เม.ย. 68 มีดังนี้

  • AOC ระงับบัญชีชั่วคราว จำนวน 383,552 บัญชี

  • ปปง. ทำการอายัดบัญชีไปแล้วจำนวน 767,755 บัญชี (ณ วันที่ 20 พ.ค. 68)

4.มาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า และ SMS แนบลิงก์

  • มาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า (ซิมของบุคคลต่างด้าว) กสทช.จะมีการควบคุมการลงทะเบียน ซิมของของบุคคลต่างด้าว โดยจะจำกัดไว้ที่ จำนวน 3 ซิม ต่อ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ทั้งนี้ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะมีระยะเวลาในการปรับปรุงระบบให้แล้วเสร็จภายในเดือน สิงหาคม 2568

  • การบริหารจัดการ SMS แนบลิงก์

กสทช. ได้กำหนดให้ ผู้ใช้บริการที่มีความประสงค์จะส่ง SMS แนบลิงก์ ลิงก์ดังกล่าวต้องได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจาก สกมช. ก่อนส่งข้อความสั้น โดยลิงก์ที่ส่งจะต้องนำไปสู่เนื้อหาที่ต้องการสื่อสารเท่านั้น เช่น สำนักงาน กสทช. จะต้องไปยังเว็บไซต์ “www.nbtc.go.th” ห้ามนำไปสู่แพลตฟอร์มอื่น และห้ามไม่ให้มีข้อความที่ระบุช่องทางในการติดต่อถึงบุคคลอื่น เช่น การ Add Line

สำหรับมาตรการลงโทษ กรณีพบว่าผู้ใช้งาน Sender Name ใด มีการส่งลิงก์ที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ หรือผู้ส่งปลอมแปลงลิงก์ระหว่างการส่ง SMS หรือข้อความอื่นที่สามารถใช้เป็นช่องทางในการติดต่อถึงบุคคลอื่น ผู้ให้บริการจะต้องยกเลิกสัญญาการให้บริการ

ขณะเดียวกัน พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 4/1 วรรคสอง ได้กำหนดให้ผู้ให้บริการมีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อคัดกรองเนื้อหาข้อความสั้น (SMS) ที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามมาตรการที่สำนักงาน กสทช.กำหนดด้วย ดังนั้น หากตรวจสอบพบการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมติที่ประชุมสำนักงาน กสทช. และพระราชกำหนดดังกล่าว สำนักงาน กสทช. อาจใช้อำนาจทางปกครองตามกฎหมายกับผู้ให้บริการที่กระทำความผิด และ/หรือนำส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

5. มาตรการระงับหมายเลขโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียนด้วยชื่อของบุคคลต้องสงสัย

ตามที่ศูนย์ AOC 1441 หรือ ศปอท. ได้รับแจ้ง/ร้องเรียนทางโทรศัพท์จากผู้เสียหายว่ามีการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เดือนมกราคม – เมษายน 2568 ได้มีการบันทึกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของมิจฉาชีพ (ตัดหมายเลขซ้ำออก) ที่มี Bank Case ID จำนวน 7,173 เลขหมาย และยังไม่มี Bank Case ID จำนวน 425 เลขหมาย

ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพใช้เบอร์หรือเลขหมายโทรศัพท์ดังกล่าวในการติดต่อผู้เสียหายรายอื่น ๆ โดยการกำหนดเป็นหลักเกณฑ์การระงับเลขหมายโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียนด้วยชื่อของบุคคลต้องสงสัย ซึ่ง AOC 1441 หรือ ศปอท. จะแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการใช้บริการโทรคมนาคม ให้สำนักงาน กสทช. (ตามมาตรา 8/5 (7)) แล้วให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการตามมาตรา 5 วรรคสอง โดยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ระงับการให้บริการโทรคมนาคมของบุคคลหรือนิติบุคคลนั้น รวมถึงเบอร์โทรศัพท์หมายเลขอื่นของบุคคลหรือนิติบุคคลนั้นทั้งหมดในทุกผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์

6.การเร่งรัดบูรณาการข้อมูลหน่วยงานร่วมกันเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568

  • มอบหมายให้ ศปอท. ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปปง. กสทช. ก.ล.ต. ธ.ป.ท. สมาคมธนาคารไทย ฯลฯ ในเรื่องขั้นตอนการจัดการบัญชีม้าและการใช้อำนาจตามมาตรา 4/1 การดำเนินการตามเหตุอันควรสงสัย ขั้นตอนการทำงานรับเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบติดตามของ ศปอท. รวมทั้งเรื่องการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามพระราชกำหนดฯ ในขั้นตอนปฏิบัติ (SOP) และระยะเวลาการดำเนินการ (SLA)

7.มาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้าคริปโท

  • ในเดือน มิถุนายน 2568 ก.ล.ต. และ สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) จะหารือร่วมกับ ปปง.ในการออกแนวทางปฏิบัติการใช้ข้อมูลบัญชีม้า HR-03 และแนวทางการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมฐานข้อมูล HR-03 กับผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัล (DA) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบการฯ ระงับการเปิดบัญชี/ให้บริการกับบัญชีม้า รวมทั้งการหารือร่วมกันกับกระทรวงดีอี ในขั้นตอนการส่งรายชื่อแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาต

หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441

แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)

Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top