นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย [KUN] เปิดเผยว่า บริษัทยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2568 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.
วัตถุประสงค์การระดมทุน เพื่อใช้ซื้อทรัพย์สินและการลงทุนสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทั้งในส่วนของการก่อสร้างบ้าน และ ก่อสร้างระบบสาธารณูโภค โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการใหม่ที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเพื่อเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบนทำเลสำคัญต่อการขยายเขตเมือง โดยโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างปัจจุบันอยู่บนทำเล 3 แห่ง ได้แก่ บนถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย, พื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี, ถนนบางขุนเทียนชายทะเล จังหวัดกรุงเทพมหานคร และ ถนนเลียบคลองสอง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีปัจจัยด้านความต้องการที่พักอาศัย ทั้งจากชุมชนในเขตพื้นที่โดยรอบ และ คนเมืองที่ต้องการบ้านที่มีคุณภาพ สภาพแวดล้อมดีในราคาสมเหตุสมผล โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มองหาทางเลือกในการอยู่อาศัยนอกตัวเมืองที่มีความสงบ เป็นส่วนตัว แต่ยังเดินทางสะดวก และ เชื่อมต่อกับโครงข่ายคมนาคมหลักได้ง่าย ซึ่งตรงกับแนวทางการพัฒนาของบริษัทที่เน้นออกแบบโครงการให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงของลูกค้าในแต่ละทำเลอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งนโยบายการผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan to Value) ของภาครัฐ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ และ พื้นที่ตลาดขนาดย่อม บริเวณด้านหน้าโครงการในทุกโครงการ ให้เหมะสมกับความต้องการใช้งานของลูกค้าในโครงการ รวมถึงชุมชนบริเวณโดยรอบโครงการที่ต้อการใช้พื้นที่ดังกล่าวในการพัฒนาธุรกิจ โดยมียอดความต้องการของผู้เช่าเข้ามาแล้วบางส่วน เพื่อเพิ่มรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯ
“บริษัทมีแผนชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2568 ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้นำเงินจากหุ้นกู้ชุดใหม่มาใช้ในการชำระหนี้เดิม แต่มาจากการบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคตอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น โครงการนาวาร่า รังสิต–คลอง 2 และโครงการนาวาร่า พระราม 2 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงถึง 35-40% โดยมียอดความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งความสามารถในการบริหารจัดการที่ดินทำเลคุณภาพ ที่พร้อมสำหรับการพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่า หรือ จำหน่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต” นางประวีรัตน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 68)