
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร วุฒิสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ มีมติให้เชิญนายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนรัฐบาลมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังมีข้อสงสัยในวันที่ 17 ก.ค.นี้ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาจมอบหมายให้คนอื่นปฏิบัติหน้าที่แทน ใน 12 ประเด็น ดังนี้
1.รัฐมีการประเมินเป็นไปได้หรือไม่ว่ากิจการกาสิโนที่มีพื้นที่ไม่เกิน 10% ของสถานบันเทิงครบวงจร จะสามารถสร้างรายได้สูงถึง 90% ของรายได้รวมทั้งหมดของโครงการตามที่มีการกล่าวมาหรือไม่
2.รัฐบาลมีการอนุญาตจัดตั้งบทกาสิโนภายในสถานบันเทิงครบวงจรจำนวน 5 แห่ง จริงหรือไม่
3.การใช้ประโยชน์ที่ดินท่าเรือคลองเตย จะเป็นการใช้ประโยชน์ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์หรือไม่
4.จากข้อมูลและสมมติฐานรายได้จากผู้เล่นชาวไทย ที่รัฐบาลศึกษาและเอกชนศึกษาสวนทางกันจึงอยากทราบข้อเท็จจริง
5.การกำกับดูแลและป้องกันผลกระทบ รัฐบาลจะมีแนวทางสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณะได้อย่างไรว่าผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจะไม่เกิดผลกระทบทับซ้อนและมีการดำเนินงานอย่างโปร่งใส
6.รัฐบาลมีมาตรการดูแลเจ้าหน้าที่พิเศษ อย่างไรในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมเกี่ยวกับการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำบ่อนกาสิโน
7.รัฐบาลมีแนวทางในการกำกับดูแลตรวจสอบและป้องกันความเสียหาย การใช้อำนาจเกินขอบเขตของคณะกรรมการนโยบาย การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร
8.ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม รัฐบาลมีมาตรการใดในการป้องกันไม่ให้ธุรกิจกาสิโนกลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอาจจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียเวลาและโอกาสในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการของประเทศ
9.รัฐบาลมีมาตรการตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนและรอบด้านของข้อมูลคนเท็จจริงที่ใช้ในการตัดสินใจอย่างไร ซึ่งอาจจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือและความชอบธรรมในการผลักดันนโยบาย
10.รัฐบาลมีเหตุผลอย่างไรที่เลือกดำเนินการ ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและผลกระทบทางสังคมภายหลังการกำหนดพื้นที่และจัดหาเอกชนมาลงทุน
11.รัฐบาลมีแนวทางใดเป็นหลักประกันว่าการเลือกพื้นที่ตั้งโครงการจะไม่ละเลยมิติทางสังคมและผลกระทบเชิงลบต่อชุมชน
12.การตรวจสอบความโปร่งใสและกฎหมาย พบว่าในอดีตมีผลศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการจัดตั้งบ่อนกาสิโนหรือมีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า รัฐบาลมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวที่อาจขาดความเป็นกลางขาดความเชื่อมโยงของบุคคลหรือกลุ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนต่างชาติหรือไม่ อีกทั้งรัฐบาลได้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการปรับปรุงชื่อร่าง พ.ร.บ. เพื่อให้มีความตรงไปตรงมาโปร่งใสและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนหรือไม่
ดังนั้น กมธ.ขอย้ำว่า รัฐบาลควรดำเนินการด้วยความโปร่งใสรอบคอบและเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้การกำหนดนโยบายสำคัญครั้งนี้สอดคล้องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ส่วนการเสนอให้รัฐบาลถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ออกจากการพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น กมธ.มีการศึกษาที่เป็นกลางและพยายามศึกษาถึงผลกระทบความเป็นไปได้ข้อดีข้อเสีย ขณะนี้ กมธ.ยังไม่ได้มีมติเรื่องการถอนร่างดังกล่าวออกไปก่อน แต่ส่วนตัวเห็นว่า อาจจะมีการนำร่างดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมในวันที่ 9 ก.ค.นี้
“ถ้านำร่างดังกล่าวเข้ามาพิจารณาจริง ทั้งที่การศึกษายังไม่ครบรอบด้าน อยากให้มีการชะลอไว้ก่อน ถอยไว้ก่อนถ้าถอนได้ก็ดี เพราะที่มาของเรื่องเหล่านี้มาเร็วไปหน่อย ตอนหาเสียงของพรรคการเมืองก็ไม่ได้มีเรื่องนี้ ถ้าเป็นไปได้โปร่งใสที่สุด คือต้องเริ่มตั้งแต่ตอนหาเสียง ประกาศนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองให้ชัดว่า เราต้องการกาสิโน ภาพประชาชนตัดสินใจเลือกเข้ามาจะไร้ข้อกังขา ส่วนจะมาทำประชามติหรือศึกษา ต่อไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นโยบายกาสิโนเข้ามา โดยที่ไม่มีนโยบายหาเสียงมาก่อน และตอนที่แถลงนโยบายก็ไม่ได้มีการพูดถึงกาสิโน พูดถึงแค่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เท่านั้น ฉะนั้นกาสิโนจึงมาทีหลังจะมาทำประชามติตอนนี้ ผมมองว่ากระบวนการมันผิดเพี้ยนไป ดังนั้นถ้าถอนได้ก็ดีเพราะเรื่องนี้มาเร็วเกินไป” นพ.วีระพันธ์ กล่าว
ขณะที่นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กล่าวว่า ต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรถอนวาระเรื่องนี้ออกจากวาระโดยเร็วและไม่ควรกลับเข้ามาอีกแล้ว เพราะมีความเสี่ยงที่จะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 3 ในเรื่องหลักนิติธรรม เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้ รวมถึงมาตรา 58 รัฐควรจะให้มีการจัดทำความคิดเห็นจากประชาชนก่อน วันนี้เรายังไม่ทราบว่าเราจะจัดกาสิโนที่จังหวัดไหน เมืองไหน เพราะฉะนั้นส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่นั้นถือเป็นการตีเช็คเปล่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงมาตรา 63, 64 และ 65 ที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น
“ที่บอกว่าเอาการพนันใต้ดินขึ้นมาบนดินแล้ว มาเก็บภาษีการพนันจะทำให้หายไป ความเห็นส่วนตัวไม่มีวันหาย แต่เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเล่นการพนันมากขึ้นจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน” นายพิสิษฐ์ กล่าว
ส่วนมาตรา 75 รัฐต้องพัฒนาด้านวัตถุและจิตใจไม่ใช่เน้นแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ต้องคำนึงถึงประชาชนและเยาวชนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นซึ่งขอเรียกร้อง อย่าบรรจุเข้าในวาระการประชุมตั้งแต่วาระ 1 หากยังไม่ยอม ตนในฐานะสมาชิกวุฒิสภาจะรวบรวมรายชื่อเพื่อจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 68)