จีนเตือนสหรัฐฯ อย่าจุดชนวนสงครามการค้า ขู่ตอบโต้หากตัดจีนจากห่วงโซ่อุปทาน

หนังสือพิมพ์พีเดิลส์เดลี่ (People’s Daily) ของทางการจีนได้เผยแพร่บทความเตือนรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ให้จุดชนวนความตึงเครียดทางการค้าให้ปะทุขึ้นอีกครั้งด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในเดือนหน้า ขณะเดียวกันก็เตือนว่าจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่ทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อตัดจีนออกจากห่วงโซ่อุปทาน

“ข้อสรุปหนึ่งที่ชัดเจนมากคือ การเจรจาและความร่วมมือเป็นหนทางที่ถูกต้องเพียงหนทางเดียว” พีเพิลส์เดลี่ระบุในบทบรรณาธิการ โดยอ้างถึงสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในปัจจุบัน

บทความดังกล่าวได้เน้นย้ำมุมมองของจีนที่ว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เป็น “การข่มเหงรังแก” และเสริมว่า “วิถีปฏิบัติที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการยึดมั่นในจุดยืนที่มีหลักการเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของตนได้อย่างแท้จริง”

บทความของพีเพิลส์เดลี่บ่งชี้ว่า จีนเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามภาษีรอบใหม่ หากปธน.ทรัมป์ยังคงยึดมั่นใน “สิ่งที่อ้างว่าเป็น ‘เส้นตายสุดท้าย'”

นอกจากนี้ พีเพิลส์เดลี่ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคที่กำลังพิจารณาทำข้อตกลงปรับลดภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการตัดจีนออกจากห่วงโซ่อุปทานของประเทศเหล่านั้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เวียดนามได้รับการลดภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ เหลือ 20% จากเดิม 46% ด้วยการทำข้อตกลงให้สินค้าที่ “ขนส่งผ่าน” เวียดนามจะต้องเสียภาษีอัตรา 40% ซึ่งโดยปกติแล้วสินค้าเหล่านี้มาจากจีน

“จีนขอคัดค้านอย่างจริงจังต่อการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำข้อตกลงที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีนเพียงเพื่อจะแลกกับการลดภาษี หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จีนจะไม่ยอมรับและจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศ” พีเพิลส์เดลี่ระบุ

สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุกรอบการค้าในเดือนมิ.ย. โดยทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเป็นการชั่วคราว แต่เนื่องจากมีรายละเอียดมากมายที่ยังไม่ชัดเจน เทรดเดอร์และนักลงทุนต่างก็จับตาดูว่าข้อตกลงนี้จะนำไปสู่การผ่อนคลายข้อพิพาทอย่างยั่งยืนหรือไม่

ทั้งนี้ จีนซึ่งเดิมถูกสหรัฐฯ กำหนดภาษีศุลกากรในอัตราสูงกว่า 100% นั้น มีเวลาจนถึงวันที่ 12 ส.ค. เพื่อบรรลุข้อตกลงกับทำเนียบขาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 68)