ทรัมป์เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “เจนเซน หวง” หลังอินวิเดียมีมูลค่าตลาดแตะ 4 ล้านล้านดอลล์

เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดีย (Nvidia) พบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี (10 ก.ค.) หลังอินวิเดียกลายเป็นบริษัทแรกที่ปิดตลาดด้วยมูลค่าตลาดสูงกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าแอปเปิ้ล (Apple) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) สร้างหมุดหมายสำคัญเชิงสัญลักษณ์ได้สำเร็จ โดยหุ้นของอินวิเดียเคยแตะระดับดังกล่าวแล้วระหว่างการซื้อขายในวันพุธ (9 ก.ค.)

ทรัมป์ได้โพสต์แสดงความยินดีกับหุ้นของอินวิเดียบนทรูธโซเชียลว่า “หุ้นอินวิเดียพุ่ง 47% นับตั้งแต่ประกาศภาษีทรัมป์ สหรัฐฯ กำลังจะได้รับเงินหลายแสนล้านดอลลาร์จากภาษีศุลกากร ประเทศของเรากลับมาแล้ว”

ทั้งนี้ ตัวแทนจากอินวิเดียปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพบปะกันในครั้งนี้ และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะประชุมกันในเรื่องใด อย่างไรก็ตาม อินวิเดียกำลังเผชิญกับมาตรการควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศใช้ในเดือนเม.ย. ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ

ในครั้งนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แจ้งต่ออินวิเดียว่า ชิปประมวลผลรุ่น H20 ที่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้ ซึ่งผลิตขึ้นสำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ จะต้องได้รับใบอนุญาตส่งออกเสียก่อน โดยก่อนหน้านี้หวงได้แจ้งกับนักลงทุนว่า ข้อกำหนดดังกล่าวมีผลทำให้ยอดขายของอินวิเดียในตลาดจีนหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิงโดยไม่มี “ระยะเวลาผ่อนผัน” และจะทำให้บริษัทสูญเสียคำสั่งซื้อชิปตามแผนในไตรมาสเดือนก.ค.ไป คิดเป็นมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์

หวงกล่าวกับนักลงทุนในการประกาศผลประกอบการในเดือนพ.ค.ว่า “ตลาดจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ แทบจะถูกปิดตายสำหรับอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ไปแล้ว”

นอกจากนี้ อินวิเดียยังเผชิญกับข้อจำกัดอีกประการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นในการส่งออกชิป AI หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ยกเลิก “กฎระเบียบการแพร่กระจาย AI” (AI diffusion rule) ของอดีตปธน.โจ ไบเดน โดยรัฐบาลทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะออกข้อจำกัดใหม่ที่เรียบง่ายกว่าเดิมในช่วงปลายปีนี้ เพื่อกำหนดว่าประเทศใดบ้างที่จะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของอินวิเดียได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)