
คลาวด์แฟลร์ (Cloudflare) บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายและความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต กำลังเดินหน้าผลักดันให้ กูเกิล (Google) บริษัทเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ เปิดทางให้เว็บไซต์ต่าง ๆ สามารถบล็อกเนื้อหาของตนจากการถูกนำไปใช้โดยฟีเจอร์ AI ของกูเกิล โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการแสดงผลการค้นหา หรือการทำ SEO
ปัจจุบัน แม้เว็บไซต์สามารถใช้แท็กที่เรียกว่า “nosnippet” เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อหาของตนไปปรากฏในส่วน “AI Overview” หรือ “Answer Box” แต่การทำเช่นนั้นอาจทำให้กูเกิลค้นหาเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ยากขึ้น หรือค้นหาไม่เจอเลย ซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์ไม่ปรากฏบนหน้าผลการค้นหาเมื่อมีผู้ใช้งานค้นหาบนกูเกิล
อย่างไรก็ดี แมทธิว พรินซ์ ซีอีโอของคลาวด์แฟลร์ แสดงความมั่นใจว่า กูเกิลจะสามารถหาวิธีแยกบอทที่เก็บข้อมูลสำหรับ AI ออกจากบอทที่ใช้สำหรับจัดทำอันดับการค้นหาได้ โดยพรินซ์เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับกูเกิล
“ตอนนี้ Gemini ถูกบล็อกเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว และเราจะทำให้กูเกิลมีวิธีให้บล็อก Answer Box กับ AI Overview ได้ โดยที่ไม่ต้องบล็อกการค้นหาเว็บไซต์แบบปกติด้วย” พรินซ์โพสต์ข้อความบน X (ทวิตเตอร์) เพื่อตอบคำถามผู้ใช้รายหนึ่ง และเมื่อถูกถามจากผู้ใช้อีกรายหนึ่งว่า เรื่องนี้เป็นไปได้จริงหรือ เขายืนยันว่า “เป็นไปได้แน่นอน #โปรดติดตาม”
ในการตอบคำถามของผู้ใช้อีกราย พรินซ์เผยว่า คลาวด์แฟลร์ได้มีการพูดคุยกับกูเกิลแล้ว ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่หากการเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ คลาวด์แฟลร์ก็พร้อมที่จะผลักดันกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก แต่เขาหวังว่าจะไม่ต้องไปถึงขั้นนั้น
ก่อนหน้านี้ คลาวด์แฟลร์ได้ประกาศเปิดตัวระบบ “pay-per-crawl” เพื่อเสนอทางเลือกให้เจ้าของเว็บไซต์ได้รับเงินเพื่อความเป็นธรรม หาก AI ต้องการเข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ เพราะที่ผ่านมา AI มักจะดึงข้อมูลไปใช้ฟรี ๆ ซึ่งความเคลื่อนไหวของคลาวด์แฟลร์ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากสื่อและแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำหลายแห่ง เช่น Condé Nast, TIME, The Atlantic รวมถึง Pinterest และ Reddit
ทั้งนี้ นโยบายใหม่ของคลาวด์แฟลร์สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการที่บริษัท AI ดึงข้อมูลจำนวนมากจากอินเทอร์เน็ตไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของเนื้อหา โดยปัจจุบันมีคดีฟ้องร้องหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เช่น Reddit ฟ้อง Anthropic, The New York Times ฟ้อง OpenAI และ Microsoft หรือในเคสของ Getty Images ที่ดำเนินคดีทางกฎหมายกับ Stability AI
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)