
ยอดขายหุ้นกู้แปลงสภาพในเอเชียในปี 2568 พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงและตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเติบโตของตลาดหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยบริษัทในภูมิภาคนี้ซึ่งนำโดยบริษัทของจีนได้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพและหุ้นกู้ที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้รวมมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหุ้นกู้ที่ออกในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์ฮ่องกงได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ
ความต้องการตราสารหนี้ที่ผูกกับหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนทำให้การออกหุ้นกู้ขนาดใหญ่ที่สุด 5 รายการของภูมิภาคเอเชียในปีนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ย โดยบริษัทจีนอย่างไป่ตู้ (Baidu), อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) และ ผิงอัน อินชัวรันซ์ กรุ๊ป (Ping An Insurance Group) ถือเป็นผู้ออกหุ้นกู้ลูกผสมรายใหญ่ที่สุด
ไป่ตู้ระดมทุน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการขายหุ้นกู้ที่สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ ทริปดอทคอม กรุ๊ป (Trip.com Group) ส่วนอาลีบาบาออกหุ้นกู้ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกงที่สามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญของอาลีบาบา เฮลท์ อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี (Alibaba Health Information Technology) โดยใช้ประโยชน์จากต้นทุนการระดมทุนที่ต่ำกว่าของดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผิงอันก็ระดมทุนได้เกือบ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกงจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพเช่นกัน
ในประเทศอื่น ๆ นั้น บริษัท แกร็บ โฮลดิ้งส์ (Grab Holdings) และ เมกมายทริป (MakeMyTrip) ต่างก็ออกหุ้นกู้ขนาดใหญ่ ขณะที่นิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบปัญหาก็ระดมทุนได้ 2 แสนล้านเยนจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในรอบหลายปี
สำหรับแรงหนุนสำคัญต่อความนิยมของหุ้นกู้แปลงสภาพในปีนี้มาจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เกิดจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยต่ำหรือแทบไม่มีดอกเบี้ย กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ออกตราสารหนี้ ส่วนในมุมของนักลงทุนนั้น หลักทรัพย์ลูกผสมนี้เปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นจีนโดยมีความเสี่ยงขาลงที่จำกัด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิกยังคงมีสัญญาณคึกคักอย่างต่อเนื่อง และนักวิเคราะห์มองว่าสภาพตลาดในปีนี้แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 68)