
ผลสำรวจความเห็นที่เผยแพร่โดยสื่อหลายสำนักในวันนี้ (15 ก.ค.) บ่งชี้ว่า พรรคฝ่ายรัฐบาลญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งวุฒิสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. นี้ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
กระแสคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความกังวลของนักวิเคราะห์บางส่วนว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายการคลังของประเทศ
หนังสือพิมพ์อาซาฮีระบุโดยอ้างอิงผลสำรวจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและการรายงานข่าวทั่วประเทศว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ และพรรคโคเมโตะ (Komeito) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรักษา 50 ที่นั่งที่จำเป็นต่อการครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ขณะที่สำนักข่าวจิจิก็รายงานในทิศทางเดียวกันว่า พรรคฝ่ายรัฐบาลกำลังเผชิญความท้าทายในการหาเสียงและอาจสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง
ทั้งนี้ คะแนนนิยมของรัฐบาลอิชิบะตกต่ำลงท่ามกลางปัญหาค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของญี่ปุ่น
เดวิด โบลลิง ผู้อำนวยการจากบริษัทที่ปรึกษา Eurasia Group กล่าวในบทวิเคราะห์ว่า “คะแนนนิยมที่ตกต่ำของอิชิบะสะท้อนความไม่พอใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน” พร้อมประเมินว่ามีโอกาส 60% ที่พรรคฝ่ายรัฐบาลจะสูญเสียเสียงข้างมาก
การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังพยายามเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ให้ลุล่วงก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีในอัตรา 25%
หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานว่า นายกฯ อิชิบะมีกำหนดการเข้าพบสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (18 ก.ค.) ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเพื่อร่วมงานวันชาติสหรัฐฯ ในมหกรรม World Expo ที่เมืองโอซาก้า
ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวและเงินเฟ้อสูงขึ้น นายกฯ อิชิบะได้ให้คำมั่นว่าจะจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพ แต่ปฏิเสธข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการให้ลดภาษีการขาย นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า หากพรรครัฐบาลพ่ายแพ้การเลือกตั้ง อาจเพิ่มโอกาสที่จะมีการลดภาษี และอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ในการลดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นาโอยะ ฮาเซกาวะ หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านพันธบัตรจาก Okasan Securities กล่าวว่า “หากพรรคฝ่ายรัฐบาลสูญเสียเสียงข้างมาก ตลาดจะจับตาดูสัญญาณเกี่ยวกับอนาคตของนายกฯ อิชิบะ โครงสร้างของรัฐบาลชุดใหม่ และทิศทางนโยบายการคลัง”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 68)