อินโดนีเซียเล็งเก็บภาษีส่งออกถ่านหิน หวังดึงรายได้เข้ารัฐ

รัฐบาลอินโดนีเซียอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดเก็บภาษีส่งออกถ่านหินในช่วงที่ราคาอยู่ในระดับสูง โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้รัฐและนำไปใช้จ่ายในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล

บาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่อินโดนีเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมรัฐสภาในกรุงจาการ์ตาเมื่อวันจันทร์ (14 ก.ค.) ว่า มาตรการดังกล่าวจะมีผลเฉพาะเมื่อราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสูง โดยรัฐบาลยังอยู่ระหว่างการกำหนดระดับราคาขั้นต่ำที่จะใช้เป็นเกณฑ์ พร้อมระบุว่า แนวทางคล้ายกันนี้อาจนำมาใช้กับการส่งออกทองคำด้วย

บาห์ลิลแสดงความเห็นว่า ถ้าราคาดี ธุรกิจก็ควรแบ่งรายได้บางส่วนกลับคืนรัฐ แต่หากราคาตกต่ำ รัฐก็ไม่ควรเพิ่มภาระให้ภาคเอกชน

รายงานระบุว่า นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ที่มุ่งเพิ่มรายได้รัฐจากหลากหลายช่องทาง เพื่อรองรับแผนใช้งบประมาณในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการอาหารกลางวันฟรีสำหรับนักเรียนทั่วประเทศ และการสร้างที่อยู่อาศัยราคาประหยัด

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ปรับขึ้นค่าสิทธิ (royalty) ที่จัดเก็บจากการผลิตแร่นิกเกิล ดีบุก และแร่โลหะอื่น ๆ เพื่อเสริมรายได้เข้าคลัง

อย่างไรก็ตาม แผนจัดเก็บภาษีส่งออกถ่านหินอาจเพิ่มความไม่แน่นอนทางนโยบายแก่ภาคเหมืองแร่ และสร้างแรงกดดันต่อบริษัทที่มีสถานะทางการเงินเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มที่พึ่งพาการกู้ยืมและขาดการกระจายความเสี่ยง เช่น พีที อินดิกา เอนเนอร์จี (PT Indika Energy), พีที เมดโก เอนเนอร์จี อินเตอร์นาซิออนแนล (PT Medco Energi Internasional), ไมนิ่ง อินดัสทรี อินโดนีเซีย (Mining Industry Indonesia) และ พีที ฟรีพอร์ต อินโดนีเซีย (PT Freeport Indonesia)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 68)