
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) โดยฟื้นตัวหลังลดลง 4 วันติดต่อกัน หลังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอย่าง ABB และ Legrand ซึ่งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 547.03 จุด เพิ่มขึ้น 5.19 จุด หรือ +0.96%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,822.00 จุด เพิ่มขึ้น 99.91 จุด หรือ +1.29%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,370.93 จุด เพิ่มขึ้น 361.55 จุด หรือ +1.51% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,972.64 จุด เพิ่มขึ้น 46.09 จุด หรือ +0.52%
หุ้น ABB ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้นเกือบ 10% หลังมียอดสั่งซื้อรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความต้องการสินค้าที่ใช้ในศูนย์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่หุ้น Legrand ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของฝรั่งเศส พุ่งขึ้นเกือบ 9% หลังปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายประจำปีจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจศูนย์ข้อมูลในอเมริกาเหนือ และคู่แข่งอย่าง หุ้น Schneider Electric ก็พุ่งขึ้น 7.7% เช่นกัน
หุ้นผู้ผลิตชิปยุโรปสามารถฟื้นตัวบางส่วนจากการร่วงในวันก่อน โดยได้แรงหนุนจากการที่ TSMC ผู้ผลิตชิป AI ขั้นสูงรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานกำไรไตรมาสสองทำสถิติสูงสุด ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น และหุ้น ASML พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากร่วงลง 11% ในวันพุธ
หุ้น Ocado พุ่งขึ้น 18.5% หลังซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์รายนี้รายงานกำไรพื้นฐานครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 77% และระบุว่าลำดับความสำคัญในปีงบการเงินหน้าคือการสร้างกระแสเงินสด
หุ้น Volvo Cars ผู้ผลิตรถยนต์ของสวีเดน พุ่งขึ้น 7.9% แม้รายงานกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 2 ลดลงอย่างมาก แต่ก็ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลคาดการณ์ล่าสุดจาก LSEG I/B/E/S บ่งชี้ว่าภาพรวมสถานะของบริษัทในยุโรปแย่ลง โดยคาดว่าผลกำไรไตรมาส 2 จะลดลง 0.7% เมื่อเทียบรายปี
บรรดานักลงทุนยังคงรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป (EU) โดย EU เตรียมมาตรการตอบโต้ หากการเจรจากับสหรัฐฯ ล้มเหลว
ในขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรและเยอรมนีได้ลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพที่ครอบคลุมหลายด้าน รวมถึงการป้องกันประเทศและการขนส่ง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในช่วงที่สหราชอาณาจักรกำลังพยายามปรับความสัมพันธ์ใหม่กับ EU
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 68)