
เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดีย (Nvidia) บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ขายหุ้นบริษัทออกอีก 75,000 หุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) คิดเป็นมูลค่าราว 12.94 ล้านดอลลาร์
ตามข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) การขายหุ้นครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่วางไว้ตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งอนุญาตให้หวงสามารถทยอยขายหุ้นได้สูงสุด 6 ล้านหุ้น โดยเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาเพิ่งขายหุ้นออกไปอีก 225,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 37 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดขายสะสมภายใต้แผนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนที่แล้ว
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) ได้ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของหวงพุ่งสูงขึ้น และดันให้มูลค่าตลาดของบริษัททะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
ขณะเดียวกัน อินวิเดียยังเผยว่า บริษัทเตรียมกลับไปจำหน่ายชิป H20 ให้กับลูกค้าในจีนอีกครั้ง หลังได้รับสัญญาณจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะอนุมัติใบอนุญาตให้กับบริษัทส่งออก โดยก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐฯ เคยระบุว่าอินวิเดียต้องขออนุญาตพิเศษในการจัดส่งชิปดังกล่าวซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดจีน
อินวิเดียระบุในแถลงการณ์ว่าเมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) ที่ผ่านมา “รัฐบาลสหรัฐฯ แจ้งกับอินวิเดียว่าจะออกใบอนุญาตให้ และอินวิเดียหวังว่าจะได้เริ่มส่งมอบในเร็ว ๆ นี้”
ด้านหวงแถลงต่อสื่อมวลชนที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (16 ก.ค.) ว่า เขาต้องการนำชิปรุ่นที่ล้ำหน้ากว่า H20 มาจำหน่ายในจีนในอนาคตเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ค. 68)